วันนี้ (15 ธ.ค.67) นายวิทยา แก้วมี รองอธิบดีกรมชลประทาน ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมชลประทาน ให้ลงพื้นที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยผู้เกี่ยวข้อง ดังนี้
จุดที่ 1 พื้นที่เพาะปลูกแปลงส้มโอทับทิมสยาม ซึ่งเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยเป็นพื้นที่โอบล้อมประมาณ 20,000 ไร่ มีพื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยาม 3,000 ไร่ ในพื้นที่ตำบลคลองน้อย อำเภอปากพนัง สถานการณ์ระดับน้ำในพื้นที่ อยู่ที่ระดับ +1.2 เมตร (รทก.) สูงกว่าระดับน้ำที่ใช้ในการบริหารจัดการอยู่ 0.7 เมตร ได้กำชับให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในแปลงเพาะปลูกนานเกินกว่า 5 วัน พร้อมทั้งใช้ขีดความสามารถของอาคารชลประทานและเครื่องสูบน้ำในพื้นที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ ร่วมกับการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดระดับน้ำเพิ่มเติมตามจุดระบายน้ำต่างๆ มีการรายงานระดับน้ำรายชั่วโมงเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เร่งการระบายน้ำเพื่อพร่องน้ำออกจากพื้นที่ให้มากที่สุด
จุดที่ 2 ได้ลงพื้นที่ไปติดตามการระบายน้ำผ่านประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ประตูระบายน้ำฉุกเฉิน และประตูระบายน้ำคลองลัด เพื่อประเมินการระบายน้ำออกสู่ทะเล ซึ่งได้สั่งการให้พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำให้เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลา โดยในช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูง ให้ปิดบานประตูระบายน้ำและใช้เครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งไว้สูบน้ำออกจากประตูระบายน้ำฉุกเฉิน
ส่วนในช่วงที่น้ำทะเลลดลง ให้เปิดประตูระบายน้ำ เร่งการระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ในเขตอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ และอำเภอปากพนัง รวมทั้งพื้นที่ทางตอนบนของประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่เป็นจำนวนมาก จึงให้พิจารณาหลักการบริหารจัดการน้ำตามจังหวะการขึ้นลงของน้ำทะเล ร่วมกับสภาพน้ำฝนและน้ำท่าในพื้นที่ให้สอดคล้องกัน เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้ได้มากที่สุด