กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

05 ต.ค. 2566 | 14:00 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2566 | 14:04 น.

กรมชลประทาน เดินหน้าติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ หลังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามนโยบายของรัฐบาล

กรมชลประทาน เดินหน้าติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ หลังมีฝนตกหนักหลายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำ พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ตามนโยบายของรัฐบาล และ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

 

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

 

จังหวัดลำปาง

โครงการชลประทานลำปาง ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่น้ำท่วมขังลงสู่แม่น้ำวัง ณ บริเวณบ้านใหม่พัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลสบปราบ อำเภอสบปราบ ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนประสบภัยน้ำท่วม

 

จังหวัดสุโขทัย

โครงการชลประทานสุโขทัย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง บริเวณหมู่ที่ 1 บ้านคลองยาง ตำบลบ้านกล้วย อำเภอเมืองสุโขทัย ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

 

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

 

จังหวัดฉะเชิงเทรา

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพระองค์ไชยานุชิต ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับด้วยระบบไฮดรอลิก ขนาดท่อ 42 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง บริเวณตำบลบางขนาก  อำเภอบางน้ำเปรี้ยว ป้องกันน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎร

 

จังหวัดพัทลุง

โครงการชลประทานพัทลุง เปิดศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาอุทกภัย และเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย โดยเตรียมความพร้อมของเครื่องจักร เครื่องมือ รถขุด เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ เครื่องผลักดันน้ำในพื้นที่เสี่ยงให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที รวมทั้งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้น

 

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

กรมชลฯ เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่

 

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์