IRPC เตรียมขายหุ้นกู้ 8 รุ่น ดอกเบี้ย 3.20-4.40% พฤษภาคมนี้

05 เม.ย. 2566 | 11:52 น.
อัปเดตล่าสุด :05 เม.ย. 2566 | 12:00 น.

IRPC เตรียมเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล จำนวน 8 รุ่น อายุ 3, 5, 7, และ 10 ปี ดอกเบี้ย 3.20 – 4.40% อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ A-(tha)  คาดว่าจะเสนอขายพฤษภาคมนี้ 

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ในเดือนพฤษภาคมนี้ ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ผ่าน 9 สถาบันการเงิน โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ A-(tha) จากฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) สะท้อนถึงความมั่นใจและการเป็นที่ยอมรับในฐานะบริษัทที่สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงาน มุ่งต่อยอดความแข็งแกร่งให้ธุรกิจปัจจุบัน และเดินหน้ารุกธุรกิจใหม่ พร้อมสร้างสมดุลในด้านการดูแลสิ่งแวดล้อม  

นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า IRPC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 8 รุ่น ให้แก่ ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน ประกอบด้วย หุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.20 - 3.40]% ต่อปี หุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย  [3.70 - 3.90]% ต่อปี หุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.00 - 4.20]%  ต่อปี และ หุ้นกู้และหุ้นกู้ดิจิทัล อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย  [4.20 -  4.40]% ต่อปี

ทั้งนี้ IRPC จะประกาศอัตราดอกเบี้ยสุดท้ายในเดือนพฤษภาคมนี้  โดยหุ้นกู้ทั้งหมดมีกำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้ และคาดว่าจะเปิดจองซื้อในวันที่ [26, 29-30] พฤษภาคมนี้ ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 9 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารยูโอบี   และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร สำหรับหุ้นกู้ดิจิทัล เสนอขายผ่านแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ของธนาคารกรุงไทย เท่านั้น 

ในปี 2565 IRPC สร้างรากฐานอันแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ ด้วยการเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกชนิดพิเศษมูลค่าสูง (Specialty Product) ร้อยละ 22 การเปิดโรงงาน บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด ผลิตผ้าไม่ถักไม่ทอ สำหรับวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ การขยายกำลังการผลิต 4 โครงการ ได้แก่ โครงการพีพี เมลต์โบลน (PP Meltblown) 40,000 ตันต่อปี ที่มีกำลังผลิตสูงสุดในประเทศ และโครงการผลิตเม็ดพลาสติก พีพี สปันบอนด์ (PP Spunbond) 190,000 ตันต่อปี เพื่อผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์และสุขอนามัย โครงการผลิตเม็ดพลาสติก พีพีอาร์ (PPR: PP Random Copolymer Pipe) 80,000 ตันต่อปี เพื่อผลิตท่อน้ำร้อนน้ำเย็นที่ไร้สารทาเลตเป็นรายแรกของภูมิภาค และโครงการผลิต เอชดีพีอี 100 - อาร์ซี (HDPE100 - RC) 40,000 ตันต่อปี เพื่อผลิตท่ออุตสาหกรรมที่มีอายุการใช้งานได้นานถึง 100 ปี ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลาในการก่อสร้าง โดยไม่ต้องเปิดหน้าดิน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการซ่อมบำรุงใหญ่โรงกลั่นในรอบ 5 ปี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต  และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รองรับโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นและคุณภาพน้ำมันดีเซล ยูโร 5 (Ultra Clean Fuel Project หรือ UCF)  ที่จะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในต้นปีหน้า และการจับมือกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจปัจจุบัน และสร้างธุรกิจใหม่ รวมถึงการเปิดคลังน้ำมันจังหวัดสุราษฏร์ธานี พร้อมรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจภาคใต้ 

นายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า เพื่อตอบโจทย์การสร้างสิ่งที่ดีเพื่ออนาคต บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) ลง 20% ภายในปี 2573 เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2603

หุ้นกู้ของ IRPC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนในสภาวะตลาดที่มีความไม่แน่นอนและผันผวนสูงเช่นนี้ เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ และบริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ A-(tha) แนวโน้มลบ (negative) และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ A-(tha) จาก บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566

ผู้ลงทุนที่สนใจจะได้รับความสะดวกในการจองซื้อหุ้นกู้ผ่านหลากหลายช่องทาง ทั้งผ่านสาขาหรือช่องทางออนไลน์ของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ที่มีการให้บริการ นอกจากนี้ได้เพิ่มทางเลือกในรูปแบบหุ้นกู้ดิจิทัล ซึ่งผู้ลงทุนสามารถถือครองหุ้นผ่านวอลเล็ต แบบไม่มีใบตราสาร (Scripless Bond) และสามารถซื้อขายได้เรียลไทม์ 24 ชั่วโมงผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเห็นข้อมูลการถือครองบน “วอลเล็ต” ได้ทันที และสามารถทำรายการซื้อ/ขายหุ้นกู้ในตลาดรองผ่าน “วอลเล็ต” ได้

สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ IRPC สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณ 100,000 บาท ผ่านทางธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารทหารไทย ธนชาต ธนาคารยูโอบี และบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร และสำหรับการจองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัล สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท และทวีคูณ 1,000 บาท ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ของธนาคารกรุงไทยเท่านั้น

โดยศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th และสามารถติดต่อผู้จัดการการจัดจำหน่ายตามรายละเอียดด้านล่าง 

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) โทร. 1333 หรือ Bualuang mBankin‪g ‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬‬
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) โทร. 1572 หรือ Krungsri Mobile Application (KMA)
ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-111-1111 โดยจองซื้อผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เท่านั้น 
ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-888-8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคลจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่ และสาขา)
ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือ SCB Easy App
ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร. 1428 กด#4
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือ Mobile application - CIMB Thai Digital Banking
ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) โทร. 02-285-1555 
บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) (รวมถึง ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขาย) โทร. 02-165-5555 หรือ Application DIME