ถอดคีย์ซัคเซส เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์

24 พ.ค. 2566 | 09:30 น.

ถอดคีย์ซัคเซส เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ไตรมาสแรกกวาด 5 รางวัลจาก 5 เวที Awards ระดับประเทศ

เด้งรับอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์เมืองไทยปี 2566 เติบโตก้าวกระโดด เร่งการเติบโตภายใต้ 6 เสาหลักขับเคลื่อนธุรกิจ

ปี 2566 เป็นปีที่อุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์เห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน สะท้อนผ่านผลประกอบของผู้เล่นในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะผู้นำตลาดอย่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ที่ผลงานไตรมาสแรกสามารถทำรายได้ 1,590 ล้านบาท เติบโตขึ้น 41% เทียบกับปีก่อน  โดยปัจจุบันเมเจอร์ฯมีโรงภาพยนตร์ในเครือทั้งหมด 181 สาขา จำนวน 846 โรงภาพยนตร์ ในไทย ,กัมพูชา และสปป.ลาว และในปี 2566 มีแผนการลงทุนเพิ่มโรงภาพยนตร์อีก 13 สาขา จำนวน 49 โรง โดยใช้งบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท เพื่อเร่งเป้าหมายให้ครบ 1,000 โรงภาพยนตร์ อย่างไรก็ตามในไตรมาสที่ 2 นับตั้งแต่เดือน เม.ย. จนถึง มิ.ย. 2566 จะมีภาพยนตร์เข้าฉายมากกว่า 57 เรื่อง จาก 5 ค่ายใหญ่ของฮอลลีวู้ด รวมถึงยังมีภาพยนตร์ไทย การ์ตูน และ แอนิเมชั่น ซึ่งจะเป็นแรงขับให้อุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์มีความคึกคักและเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากยอดขายที่โดดเด่นแล้วในไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ “ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ” ยังได้รับความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากลูกค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถทำผลงานได้อย่างน่าสนใจ สะท้อนผ่านคะแนนการโหวตอันดับ 1 จากผู้บริโภค การันตีด้วยความสำเร็จถึง 5 รางวัลใหญ่จาก 5 เวที Awards ระดับประเทศ ได้แก่

รางวัลThailand Social Awards

1. รางวัล Thailand Social Awards ครั้งที่ 11 ในกลุ่ม Best Brand Performance On Social Media สาขา Out Of Home Entertainment จัดโดยบริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด รางวัลที่แสดงถึงความโดดเด่นของแบรนด์ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” บนโลกโซเชียลมีเดีย ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคยุคดิจิทัล

 

รางวัลThailand Top Influential Brand Awards 2022

2. รางวัล Thailand Top Influential Brands Awards 2022 จากเวที 2022 ASIA CEO SUMMIT & AWARD CEREMONY สุดยอดแบรนด์โรงภาพยนตร์อันดับหนึ่งที่ทรงอิทธิพลต่อผู้บริโภคมากที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2565 

รางวัลThailand Top Company Awards 2023

3. รางวัล Thailand Top Company Awards 2023 สุดยอดองค์กรธุรกิจไทย ในฐานะองค์กรที่มีความเป็นเลิศทางด้าน Best Customer Experience Award จัดขึ้นโดยนิตยสาร BUSINESS+ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

รางวัลThailand Most Admired Brand Awards 2023

4. รางวัล Thailand’s Most Admired Brand 2023 ตอกย้ำความสำเร็จสุดยอดแบรนด์โรงภาพยนตร์อันดับ 1 ที่ผู้บริโภคเชื่อมั่นมากที่สุด จัดขึ้นโดยนิตยสาร BrandAge ร่วมกับคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย

รางวัล Top 10 CMO from Thailand 2023

และล่าสุดกับรางวัล Top 10 CMO from Thailand 2023 จากนิตยสาร CEO Insight ASIA ซึ่ง นรุตม์  เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) เปิดเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จนี้ว่า หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ คือการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด และพยายามมองหา Pain Point ต่างๆ ตลอดเวลา เพื่อนำมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง 

จากรางวัลต่างๆที่ได้รับนี้ เป็นการสะท้อนถึงความสำเร็จ จากสิ่งต่างๆที่เมเจอร์ฯ ได้มุ่งมั่นตั้งใจทำให้ลูกค้าตลอดมา และพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่งเพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญขององค์กร นั่นคือ Customer Happiness กล่าวคือ ลูกค้าต้องมีความสุขและได้รับประสบการณ์ความบันเทิงที่ดีที่สุดทุกครั้งเมื่อมาใช้บริการในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ผ่าน 6 เสาหลัก ดังนี้

1. Innovation Leader การนำเทคโนโลยีการฉายที่ดีที่สุด และทันสมัยที่สุดจากทั่วโลก มาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ที่ต้องชมในโรงภาพยนตร์เท่านั้น เช่น IMAX with LASER โดยมีการปรับปรุงทั้งระบบภาพและระบบเสียงของโรงภาพยนตร์ IMAX ปัจจุบันมี 3 สาขา คือ ไอคอน ซีเนคอนิค,พารากอน ซีนีเพล็กซ์ และเมกา ซีนีเพล็กซ์ และล่าสุดมีแผนการลงทุน 3 ปี (2566-2568) อัปเกรดระบบการฉายไอแมกซ์จากเดิมระบบ Digital เป็นระบบ Laser ใน 5 สาขาและขยายสาขาโรงภาพยนตร์ IMAX แห่งใหม่เพิ่มอีก 5 สาขา ทำให้ภายในปี 2568 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จะมีโรงภาพยนตร์ IMAX with Laser รวมทั้งสิ้น 13 สาขา และ ScreenX แบบ 3 จอ 3 ทิศทาง แห่งใหม่ที่ ไอคอน ซีเนคอนิค ภายในมิถุนายน 2566 

2. พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าประเภทต่างๆ เช่น Kids Cinema โรงภาพยนตร์สำหรับเด็กและครอบครัว โดยปีนี้ตั้งเป้าจะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา รวมทั้งสิ้น 16 สาขา และใหม่ล่าสุดกับ i-Tail Pet Cinema โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักสุนัขและแมว แห่งแรกของเมืองไทย จำนวน 3 สาขา โดยจะเปิดตัวในปลายเดือนพฤษภาคม 2566 นี้ รวมไปถึง M PASS บัตรดูหนังรายเดือน ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในรูปแบบของการเป็นสมาชิกรายเดือน จ่ายครั้งเดียว ดูได้ทุกเรื่อง ตลอดทั้งเดือน ปัจจุบันมีสมาชิก M Pass กว่า 2 แสนราย ตั้งเป้า 5 แสนรายภายในสิ้นปีนี้ 

3. อัพเกรด Application ‘Major Cineplex’ ให้เป็นมากกว่าแอปซื้อตั๋วหนัง โดยนําเอา AI และ Machine Learning มาช่วย Engage ลูกค้า และเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เพื่อนำมาพัฒนาบริการที่ฉลาดขึ้นและรวดเร็วขึ้น สามารถ Personalized นำเสนอภาพยนตร์ และโปรโมชั่นต่างๆ ตามความชอบของลูกค้าแต่ละคน โดยเป้าหมายในปีนี้คือกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อตั๋วหนังผ่านแอปพลิเคชันมากขึ้นเป็น 70% (จากปัจจุบัน 40%) มุ่งสู่การเป็น Mobile First โดยมีจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอมากถึง 4 ล้านคนต่อเดือน และมียอดการดาวน์โหลดมากกว่า 12 ล้านครั้ง

4.สร้าง On-Ground Movie Experience เพื่อสร้างประสบการณ์ร่วมกับภาพยนตร์ ในรูปแบบต่างๆ เช่น Mascot ,Troop Roadshow ,Display จุดถ่ายรูปจาก Theme ภาพยนตร์ดัง รวมไปถึง Big Event ขนาดใหญ่ เช่น ลานแข่งรถ Go Kart เต็มพื้นที่ชั้น 1 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน จากภาพยนตร์ The Super Mario Bros. Movie และกิจกรรม Major Fast Fest รวมพลรถซิ่งกว่า 100 คัน ต้อนรับหนังฟอร์มยักษ์    Fast & Furious 10

5. Popcorn Out Cinema ปัจจุบันเฉพาะรายได้จากการจำหน่ายป๊อปคอร์นนอกโรงหนังเฉลี่ยเดือนละประมาณ 50 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้ายอดขาย Popcorn ผ่านทุกช่องทางการขาย ทั้งในโรงหนังและนอกโรงหนัง รวมไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท และยังมีแผนในการจำหน่ายป๊อปคอร์นในรูปแบบ Kiosk นอกพื้นที่ห้างและคอมมูนิตี้มอลล์ที่ไม่ได้มีโรงภาพยนตร์ โดยเริ่มแห่งแรกที่ “สายไหมอเวนิว” และจะขยายสาขาอีกอย่างต่อเนื่อง

6. Variety Content นอกจากภาพยนตร์ฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ และภาพยนตร์ไทย ที่มีโปรแกรมเข้าฉายใหม่ทุกๆสัปดาห์ ตลอดทั้งปี ทางเมเจอร์ยังมีการนำภาพยนตร์ Local Content ของเกาหลี ,ญี่ปุ่น ,อินเดีย รวมไปถึงการนำเสนอ Content ทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น หรือ Alternative Content คือ Content ที่ไม่ใช่ภาพยนตร์ เช่น คอนเสิร์ต ,ซีรีย์ ,สารคดี หรือ การแสดงสดในรูปแบบ Live Streaming จากต่างประเทศ เช่น งานประกาศรางวัลออสการ์, การแข่งขันกีฬา การแสดงคอนเสิร์ต รวมถึงกิจกรรม Major FanDom แฟนคลับร่วมดูหนังและทำกิจกรรมสุดพิเศษกับศิลปิน และนักแสดงที่ชื่นชอบ

“เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ยังมุ่งมั่นและไม่หยุดพัฒนาเพื่อนำเสนอประสบการณ์ชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุดควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแรง และยั่งยืน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ ผ่านโครงการ Major Care ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและสังคมภายใต้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม”