วันที่ 8 มี.ค. 2568 นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ชี้แจงถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยืนยันไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกมนตรี ว่า ได้บอกให้ฝ่ายค้านไปแก้ไขญัตติมา โดยให้ตัดชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออก เพราะเป็นบุคคลภายนอก หากบรรจุญัตติไปแล้ว จะมีปัญหาเรื่องฟ้องร้องกัน จึงให้ไปแก้ไข แต่ฝ่ายค้านกำลังจะอุทธรณ์ว่าเขาไม่แก้
“ดังนั้น ถ้าเขาไม่แก้ ประธานซึ่งมีอำนาจหน้าที่บรรจุระเบียบวาระ ก็ไม่บรรจุระเบียบวาระ”
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยท่าจริงจังอีกว่า “ถ้าเขาอยากจะอภิปรายเขาก็ต้องแก้ญัตติ ถ้าเขาไม่แก้เราก็ไม่บรรจุ ซึ่งผมก็ต้องดำเนินการไปตามข้อบังคับ”
เมื่อถามย้ำว่าถ้าฝ่ายค้านไม่แก้ญัตติก็ไม่สามารถบรรจุในระเบียบวาระได้ใช่หรือไม่ ประธานสภาฯ ตอบว่า ถ้าเราบรรจุวาระไปก็จะผิดในเรื่องของการดูแลความเรียบร้อยหากเกิดการฟ้องร้องขึ้นมา และตามข้อบังคับระบุชัดเจนว่า ห้ามกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น แค่กล่าวเขาก็ห้ามแล้ว แต่นี่เขียนลงไปในญัตติ ก็ยิ่งหนักกว่าการกล่าว เพราะการกล่าวถึง เราบอกให้ถอนได้ แต่เขียนในญัตติถ้าอนุมัติไปเขาก็ถอนไม่ได้แล้ว
“ผมจึงเรียกผู้นำฝ่ายค้านเข้ามาคุยแล้ว และให้เอาญัตติกลับไปแก้ โดยผู้นำฝ่ายค้าน บอกขอกลับไปปรึกษาก่อน เมื่อเขาออกไปแล้ว ผมเลยให้สภาฯ แจ้งไปว่า ขอให้มาแก้ในเรื่องที่มีชื่อบุคคลภายนอก เพราะผิดข้อบังคับ” ประธานสภาฯ กล่าว
เมื่อถามว่าหากฝ่ายค้านไม่ยอมแก้ญัตติมีโอกาสที่จะคุยกับฝ่ายค้านอีกหรือไม่เพื่อตกลงกัน นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยังมีเวลา โดยต้องรอดูว่าฝ่ายค้านยื่นอุทธรณ์ในประเด็นอะไรบ้าง ฟังคำสัมภาษณ์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องเห็นหนังสือที่อุทธรณ์มาก่อนว่าเขาอุทธรณ์ประเด็นไหน และมีประเด็นไหนที่เราจะต้องคุยกัน ซึ่งต้องเชิญเลขาธิการสภาฯ และฝ่ายกฎหมายมาหารือ
“เข้าใจน่าจะเป็นวันที่ 10 มี.ค.หรือ 11 ม.ค. หรือสัปดาห์หน้า ฝ่ายค้านคงจะยื่นคำอุทธรณ์มา ซึ่งฝ่ายค้านจะยื่นเป็นหนังสือหรือมาแจ้งก็ได้ แล้วแต่เขา เราก็พร้อมที่จะดำเนินการเพื่อให้การประชุมเกิดความเรียบร้อยและไม่ผิดข้อบังคับ”
ประธานสภาฯ กล่าวอีกา ต้องดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้การประชุมดำเนินไปได้ และให้เกิดความเรียบร้อยไม่ผิดข้อบังคับ ที่จะเกิดการฟ้องร้อง ถ้าประธานเป็นคนสั่งบรรจุและมีชื่อบุคคลภายนอกนั้นอยู่ ถ้าเขาพิจารณาฟ้องร้อง ก็ต้องฟ้องประธานเป็นคนแรก เพราะเป็นผู้บรรจุ และฟ้องผู้เสนอญัตติเป็นจำเลยที่ 2 ที่ 3 ต่อไป ซึ่งไม่ควรจะมี