เปิดแนวคิดฟื้นเศรษฐกิจ สไตล์“ทักษิณ ชินวัตร”

15 ม.ค. 2568 | 06:30 น.

อดีตนายกฯ“ทักษิณ ชินวัตร”แนะมาตรการฟื้นเศรษฐกิจ หวังดันจีดีพีโต 5% ภายในปี 2570 หนุนดัชนีหุ้นไทยพุ่ง 1,800 จุด เดินหน้าขึ้นภาษี VAT ปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ “ภูเก็ต”ทดลองใช้บิทคอยน์ซื้อขายสินค้า ย้ำลดค่าไฟเหลือ 3.70 บาท/หน่วยทำได้แน่

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมงานดินเนอร์ทอล์ค พร้อมปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "Chat with Tony : Bull Rally of Thai Capital Market" จัดโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น เมื่อค่ำวันที่ 13 มกราคม 2568 ที่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ 

นายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่ง การพูดวันนี้ตื่นเต้นมากที่สุดเพราะถูกคาดหวังว่าพรุ่งนี้หุ้นต้องขึ้น โดยมีผู้จัดการกองทุนมากมายอยู่ในงานนี้ หุ้นจะขึ้นไม่ขึ้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุน ไม่เช่นนั้นตนคงไม่สามารถ แต่มั่นใจว่าประเทศไทยยังมีอนาคตอีกมาก เพียงแต่ขาดการบริหารที่ถูกต้อง 

นำร่องใช้บิทคอยน์ที่ภูเก็ต

นายทักษิณ กล่าวว่า เมื่อ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศเตรียมหนุนการใช้คริบโต บิทคอยน์ ควบคู่กับการใช้สกุลดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นไทยจึงต้องปรับตัว รองรับการใช้คริปโต เคอเรนซี่ เพราะเป็นกระแสโลกยุคใหม่ เดินไปในทิศทางนี้

จึงเสนอแนะให้รัฐบาลไทยนำร่องแซนด์บ็อกซ์ ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อเป็นทางเลือกการใช้เหรียญบิทคอยน์ ชำระเงินในการซื้อสินค้าที่พักโรงแรม ซื้อรถยนต์ และเดินหน้าส่งเสริมการโอนเงินดิจิทัลวอลเล็ต ตามที่รัฐบาลได้เตรียมการเอาไว้ จึงเสนอการบ้านให้กระทรวงการคลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาหาแนวทางการใช้คริปโต เคอเรนซี่

นอกจากนี้ ยังเสนอแนะให้กระทรวงการคลัง ศึกษาแนวทางเพิ่มอำนาจให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อควบคุมดูแลวงการตลาดทุน ติดตามกำกับดูแล คุมเข้ม เอาผิดได้อย่างทันท่วงที เพื่อสร้างความโปร่งใส เพราะเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงออกมาตรการดึงดูดเอกชนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดทุนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มปริมาณหุ้นคุณภาพ 

สำหรับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้จากการออกหุ้นกู้ของบริษัทจดทะเบียนกระทบต่อนักลงทุนจำนวนมาก จึงต้องหาแนวทางใหม่ในการระดมเงินแทนการออกบอนด์ เพื่อให้เม็ดเงินออกไปสู่ระบบเศรษฐกิจ ยอมรับความเสี่ยง ทำให้เกิดกำไร หากเสี่ยงน้อยกำไรน้อย

“ในปีที่แล้วออกกองทุน ESG ที่จะให้มาช่วยตลาดหุ้น ปรากฏว่าเป็นบอนด์ 80% กองทุน LTF ที่หมดอายุและไม่หมดอายุเป็นกองทุนที่ใช้ซื้อหุ้น ทางคลังกำลังพิจารณาว่าจะต่อหรือไม่ ตอนนี้อยากเห็นเม็ดเงินอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ กับอยู่ในระบบเศรษฐกิจให้มาก ต้องเลี้ยงเม็ดเงินตรงนี้อยู่ในระบบให้ได้”                                

หวังรัฐบาลดันจีดีพีโต5%

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า เมื่อรัฐบาลผลักดันเศรษฐกิจผ่านหลายโครงการ คาดหวังว่าจะทำให้จีดีพีในปี 2568 ขยายตัวมากกว่าร้อยละ 3 ในปี 2569 โตร้อยละ 4 ในปี 2570 เติบโตร้อยละ 5 เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น คาดหวังดัชนีหุ้นไทยอาจขยับไปได้ถึง 1,800 จุด ช่วง 3 ปีข้างหน้าภายในรัฐบาลชุดนี้ 

โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ต้องทำให้เกิดความโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ เพิ่มอำนาจให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. เอาผิดผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน คุมเข้มการจำนำหุ้น ต้องออกมาตรการ ให้ชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ ให้นักลงทุนรับรู้

ลดค่าไฟทำได้แน่

อดีตนายกฯ ยังกล่าวถึงเรื่องค่าไฟ ว่า วันที่ตนปราศรัยเรื่องลด “ค่าไฟ” เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ปรากฏว่าขานรับกันเต็ม เพราะแอบไปเห็นตัวเลขแล้วว่าทำได้ ลดตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย แต่คนยังไม่เข้าใจ ทำให้หุ้นพลังงานตกเป็นแถว ความจริงไม่ได้กระทบอะไร 

“เราแค่รีดไขมัน เพราะมีหลายอย่างที่เราสิ้นเปลืองไป หน่วยงานรัฐบางแห่งก็ใช้ไฟฟรี โดยใช่เหตุ และไปบวกเอากับประชาชน ซึ่งเชื่อว่าสามารถแก้ปัญหาได้ และถ้าโรงไฟฟ้าไหนที่มีค่าใช้จ่ายเกินกว่า green energy ปิดดีกว่า หรือหยุดผลิต เอาไว้แสตนด์บาย เพราะเราจะลดราคาลงมา และจะดึงค่าเฉลี่ยของค่าไฟลงมา ซึ่ง ปตท.อาจจะกระทบนิดหน่อย แต่เขาก็เต็มใจที่จะต้องลด ก็เป็นไปได้ที่ค่าไฟจะลดลงเรื่อยๆ และค่าไฟของประเทศไทย ต้องเป็นแรงจูงใจอย่างหนึ่งสำหรับการลงทุนในประเทศ

โดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์ และ AI hub เพื่อรองรับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายสมัยใหม่ เนื่องจากอุตสาหกรรมดังกล่าว ต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก และไทยมีปริมาณสำรองไฟฟ้าส่วนเกิน ทำให้นักลงทุนต่างชาติ มองเห็นศักยภาพ และมีต้นทุนต่ำลง ขณะนี้กำลังเจรจากับต่างชาติรายใหญ่อีกหลายราย คาดว่าจะมีเงินลงทุนเข้าประเทศในเร็วๆ นี้หลายแสนล้านบาท”

แย้มขึ้นภาษี VAT 

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า หลังจากสภารับทราบกฎหมายภาษีส่วนเพิ่ม “ภาษี GMT” ต้องจ่ายภาษีนิติบุคคลขั้นต่ำร้อยละ 15 ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เมื่อเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศ OECD ต้องเสียภาษีระหว่างกันร้อยละ 15 ไทยจึงต้องเก็บภาษีดังกล่าว ตั้งแต่ต้นทาง 

เมื่อปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 15 จำเป็นต้องหาแนวทางปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากร้อยละ 7 ในปัจจุบัน ซึ่งกระทรวงคลังกำลังศึกษาว่าจะปรับเพิ่มอย่างไรให้เหมาะสม โดยมีระบบสวัสดิการผ่าน Negative Income Tax (NIT) ด้วยการให้เงินช่วยเหลือจากรัฐบาลแทน หากผู้มีรายได้ต่ำกว่าระดับข้อกำหนดต้องเสียภาษี รัฐบาลจะจ่ายเงินสนับสนุนเพื่อเพิ่มรายได้ให้แทน             

                                  เปิดแนวคิดฟื้นเศรษฐกิจ สไตล์“ทักษิณ ชินวัตร”         

"บันเทิงครบวงจร”เกิดแน่ใน 2 ปี  

นายทักษิณ ยังกล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ผ่านร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า ตรงนี้จะมีการลงทุน 5 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์กระเตื้องขึ้น แต่ยังมีอีกหลายช่วงตอน ซึ่งจะสำเร็จในช่วง 2 ปีรัฐบาลแพทองธารแน่นอน 

"ต่อไปนี้พนันออนไลน์ในอดีตเล่นกันครั้งหนึ่ง 2.5-4 แสนคน ประเทศไทยมีเงินฝากก่อนที่จะเล่น 3 ล้านล้านบาทต่อปี และเล่นกันได้เสียปีนึง 5 แสนล้านบาท สมมติถ้าเราเก็บภาษี 20% ก็ได้ประมาณ 1 แสนล้านบาท แต่ถ้าเก็บ 1% ของเงินฝากก็จะได้ 3 หมื่นล้านบาท ภาษีได้เพิ่มมา 1 แสนกว่าล้านบาท 

แต่ที่สำคัญมากกว่านั้น เราสามารถควบคุมได้ว่า ไม่ให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี เล่น ทุกวันนี้เด็กอายุ 10 กว่าปีก็เล่นได้ โดยใช้ระบบดิจิทัลไอดี เราต้องยืนยันตัวตน นอกจากนั้นยังรู้อีกว่าใครติดเล่นพนันงอมแงม ก็สามารถส่งจิตแพทย์เอาไปบำบัดได้ เพราะฉะนั้นเราสามารถควบคุมพวกนี้ได้หมด ปล่อยไว้อย่างเดิมทำอะไรไม่ได้ นอกจากจ่ายเจ้าหน้าที่อย่างเดียว ภาษีก็ไม่มี

วันนี้ ครม. รับหลักการ ก็ให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงดีอี ไปร่างกฎกระทรวงขึ้นมา คาดว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะมีใต้ดินขึ้นมาบนดินบ้าง ซึ่งเราพยายามเอาใต้ดินขึ้นมาไว้บนดิน”

อดีตนายกฯ กล่าวด้วยว่า “วันนี้ประเทศไทยต้องพัฒนาคน พัฒนาเศรษฐกิจใหม่ ไม่เช่นนั้นเราจะเสียเปรียบ มีท่านหนึ่งถามผมว่า เราจะทำทันไหม สู้ ไหวไหม ผมบอกไหว ไม่มีอะไรช้าเกินไป ถ้าเราเริ่มวันนี้ เพราะฉะนั้น ผมมั่นใจว่า ก็คงมีเวลารับใช้ประเทศชาติ 20 ปี มั๊งแค่นี้ก็เหนื่อยแล้วครับ 

แต่จะช่วยเต็มที่ก็จะทำเท่าที่ทำได้ เพราะวันนี้ต้องเทิร์นอะราวด์ ประเทศไทย ไม่เช่นนั้นเราจะอยู่กับวิธีคิดเก่าๆ ถ้าเราไม่เปลี่ยนประเทศไทยจะอยู่ในเทียร์ลำดับล่างๆ จะถูกทั้งโลกใช้ให้เราทำงานให้เขา  เขาถือกระดาษ สั่งเราทำ เพราะฉะนั้นเราต้องถือกระดาษ ให้เขาทำงานบ้าง"