รฟท.ตั้ง “พิศิษฐ์” อดีตผู้ว่าสตง. นั่ง ประธาน 2 ชุด สางปมโปร่งใสในองค์กร

06 ธ.ค. 2567 | 15:11 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ธ.ค. 2567 | 15:16 น.

“ผู้ว่าฯรฟท.” ตั้งอดีตผู้ว่าสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน “พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส” นั่ง ประธาน 2 ชุด สางปัญหาความโปร่งใสในองค์กร 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ลงนามในคำสั่งเฉพาะที่ก.983/2567 เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาติดตามปัญหาการดำเนินโครงการของการรถไฟฯ โดยมีองค์ประกอบดังนี้ นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เป็นประธานคณะทำงาน และคณะทำงานอีก 4 คน

รฟท.ตั้ง “พิศิษฐ์” อดีตผู้ว่าสตง. นั่ง ประธาน 2 ชุด สางปมโปร่งใสในองค์กร

อำนาจหน้าที่คือ ศึกษา รวบรวมข้อมูล ตรวจสอบข้อเท็จจริงและวิเคราะห์งานโครงการของการรถไฟฯ ที่ได้ดำเนินการหรืออยู่ในแผนการดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญา กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบที่เกี่ยวข้องและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการ เสนอผลการศึกษาพร้อมแนวทางการปรับปรุงแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่อผู้ว่าการรถไฟฯ ให้มีอำนาจเชิญบุคคลมาให้ข้อมูล เรียกเอกสารหลักฐานต่างๆจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายวีริศ ยังได้ลงนามในคำสั่งทั่วไป ที่ก.984/2567 การรรถไฟฯ เรื่องแต่งตั้งคณะทำงานศึกษากระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของการรถไฟฯ โดยมีนายพิศิษฐ์ เป็นประธานคณะทำงาน และคณะทำงานอีกสี่คน อำนาจหน้าที่คือศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล กระบวนการคำสั่งและขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุของการรถไฟฯและระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560

รฟท.ตั้ง “พิศิษฐ์” อดีตผู้ว่าสตง. นั่ง ประธาน 2 ชุด สางปมโปร่งใสในองค์กร

รวมถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องให้มีความถูกต้องโปร่งใส มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการรถไฟฯ,เสนอผลการศึกษาพร้อมความเห็นหรือแนวทางการปรับปรุงแก้ไขต่อผู้บริหารการรถไฟฯ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาสะสมในรฟท. ขณะนี้มีภาระหนี้สินที่ต้องแบกรับอยู่กว่า 230,000 ล้านบาท ที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ 5,080ไร่ การพิจารณาต่อสัญญาพื้นที่47ไร่เศษย่านห้าแยกลาดพร้าวที่จะหมดสัญญาในปี2571 กับเอกชนที่เช่าพื้นที่ในการทำธุรกิจศูนย์การค้า โรงแรม สำนักงาน การสร้างรถไฟความเร็งสูงทั่วประเทศ ปัญหาการบริหารงานภายในที่ก่อให้เกิดคำถามมากมายในองค์กร จนเป็นที่มาของการแต่งตั้งคณะทำงานทั้ง2 ชุดที่มีนายพิศิษฐ์ เป็นประธาน 

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า  แนวทางและนโยบายของ น.ส.แพทองธาร   ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่แจ้งต่อครม.ตั้งแต่ช่วงเข้ารับตำแหน่งว่าขอให้ครม.ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินให้มีความโปร่งใส สุจริต ยึดหลักกฎหมาย ไม่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มหนึ่งกลุ่มใดและขอให้ยึดผลประโยชน์ประเทศ จึงเป็นเหตุผลสำคัญในการแต่งตั้งนายพิศิษฐ์ เข้ามาทำหน้าที่เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

แต่จากการตรวจสอบพบว่า นายพิศิษฐ์ เคยมีเรื่องถูกร้องเรียนใน ป.ป.ช. โดยเมื่อวันที่ 26 ก.ย.66 คณะกรรมป.ป.ช. มีมติว่านายพิศิษฐ์ ไม่มีความผิดกรณีถูกไต่สวนพร้อมกับพวก 3ราย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯสตง. กรณียกเลิกดูงานต่างประเทศโดยมิชอบ ทำให้ สตง.เสียเงินไปทั้งสิ้น 1,607,235 บาทนั้น  

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากทำเนียบฯ แจ้งว่า มีข้อมูลว่าในขณะนี้ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะไต่สวนนายพิศิษฐ์ ใน2สำนวน 1.กรณีชี้มูลทางอาญา เพราะนายพิศิษฐ์ เเละผอ.สำนักตรวจสอบสตง. ในตอนนั้นใช้อำนาจการชี้มูลทางอาญาไม่ได้ เพราะอำนาจนั้นเป็นอำนาจของคตง. มิใช่อำนาจของพิสิฐกับพวก (คดีฟ้องปี65)  

และ 2.นายวิจิตร ศรีสะอ้าน นายกสภามหาวิทยาลัยเเม่ฟ้าหลวง ยื่นร้องนายพิศิษฐ์ ต่อป.ป.ช. และมีการตั้งไต่สวนสืบเนื่องจากกรณีเมื่อครั้ง ผู้ว่าฯสตง.กล่าวหานายวิจิตร ทุจริตก่อสร้างศูนย์การเเพทย์ เเละเเต่งตั้งรักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยเเม่ฟ้าหลวงโดยมิชอบ (คดีฟ้อง ก.ย.61) จึงต้องติดตามว่า 2กรณีดังกล่าว จะกระทบความเชื่อมั่นในการทำงานตามที่ผู้ว่าฯรฟท. แต่งตัังหรือไม่