เปิดประวัติ "บิ๊กอ้วน” ผงาดรองนายกฯ ควบ รมว.กลาโหม คุมทหาร-ตำรวจ

04 ก.ย. 2567 | 12:17 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ย. 2567 | 12:33 น.

เปิดประวัติ “บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ผงาดคุมงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ดูแลทหาร และนั่งประธาน ก.ตร. ดูแลตำวจ

วันนี้ ( 4 ก.ย. 67) ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 

สำหรับ นายภูมิธรรม เวชยชัย หรือ “บิ๊กอ้วน” จะดูแลงานด้านความมั่นคงทั้งหมด ซึ่งนอกจากจะดูแลงานด้านการทหารแล้ว ยังจะคุมตำรวจ ดูแล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยนั่งเป็นประธาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ด้วย

สำหรับ ภูมิธรรม เวชยชัย มีชื่อเล่นว่า “อ้วน” เกิดเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2496 ที่จังหวัดธนบุรี ปัจจุบันอายุ 70 ปี 

สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนทวีธาภิเศก ปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ ปี 2518 และ ปริญญาโท รัฐศาสตรมหาบัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใน 2527 

ผ่านการศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร จากวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) ในปี 2547

เส้นทางการทำงาน : 

ภูมิธรรม เวชยชัย เคยเป็น รองผู้อำนวยการโครงการอาสาสมัคร สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตั้งแต่ ปี 2522 

ต่อมาได้หันมาทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ประจำสำนักประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือชินวัตร ในระหว่าง 2540 - 2541

เส้นทางการเมือง :  

ภูมิธรรม เริ่มเข้าสู่งานการเมือง ด้วยการเป็นที่ปรึกษาคณะทำงานสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.) ใน ปี 2544 และเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (ประจำ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์) และ เป็นรองเลขาธิการพรรคไทยรักไทย 

กระทั่งได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เมื่อ ปี 2548 

ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ได้นำเสนอพระราชกฤษฎีกา ต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อเดือน ธ.ค. 2548 ให้ยุบเลิกองค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) โดยให้เหตุผลว่า มีปัญหาขาดสภาพคล่อง และมีหนี้สินสะสมกว่า 1,800 ล้านบาท และไม่มีความสามารถในการแข่งขันกับธุรกิจขนส่งของเอกชน

                                    ภูมิธรรม เวชยชัย

ต่อมาใน ภูมิธรรม ถูกตัดสิทธิทางการเมือง เป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง ปี 2549

ถัดมาใน ปี 2555 ภูมิธรรม ได้เข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้รับเลือกให้ทำหน้าที่เลขาธิการพรรค เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2555

ในการเลือกตั้งปี 2557 ได้รับเลือกตั้งเป็น สส.บัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21

ต่อมาในการเลือกตั้ง สส. ปี 2562 ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 4 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากพรรคเพื่อไทย มีจำนวน สส. มากว่าจำนวน สส.พึงมี ตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ

ในการเลือกตั้ง สส. ปี 2566 ภูมิธรรม ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 100 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง 
ก่อนหน้านั้น  ภูมิธรรม เวชยชัย ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน

กระทั้ง เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี โดยขาดคุณสมบัติของความเป็นรัฐมนตรี 

ทำให้ ภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ลำดับที่ 1 ได้ทำหน้าที่รักษาการนายกรัฐตรี จนกว่าจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ ภายหลังเสร็จสิ้นการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร ในเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2567 ที่ลงมติเลือกให้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 

สำหรับ “บิ๊กอ้วน” ถือเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คนที่ 43 ของไทย คอยดูแลงานด้านความมั่นคงทั้งหมด คุมทั้ง “ทหาร” และ “ตำรวจ” ใหกับ “รัฐบาลแพทองธาร”  

*ขอบคุณข้อมูลประวัติจากวิกิพีเดีย