คำแนะนำ “แก้วสรร” ถึง "ชาญ พวงเพชร์” ควรลาออกจากนายกอบจ.ปทุมธานี

03 ก.ค. 2567 | 14:19 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2567 | 14:30 น.
501

“แก้วสรร อติโพธิ” ออกบทความ ““ชนะเลือกตั้ง แต่ห้ามทำงาน?” ไขข้อข้องใจปม “ชาญ พวงเพชร์” ติดคดีจนต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นายกอบจ.ปทุมธานี แนะ “ควรลาออก และขอโทษประชาชน”

ควันหลงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.ปทุมธานี) ที่ นายชาญ พวงเพชร์ เฉือนชนะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง แต่ทว่าก็ไม่สามารถเข้ามานั่งทำงานในตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ได้

หนำซ้ำอาจจะต้องหยุดปฏิบัติทันที หลังเข้ารับตำแหน่ง เพราะมีคดีค้างเก่าที่  ป.ป.ช.ยื่นฟ้องกรณีถูกกล่าวหาทุจริต และศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว

ล่าสุด นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้ออกบทความวันที่ 3 ก.ค. เพื่อไขข้อสงสัยเรื่อง “ชนะเลือกตั้ง แต่ห้ามทำงาน?”

ถาม : ทำไม คุณชาญ พวงเพชร นายก อบจ.ปทุมธานี ชนะเลือกตั้งแล้วถึงทำงานไม่ได้ ที่ว่าเขาต้องคดีคอรัปชั่น จนต้องหยุดทำหน้าที่นั้น มันเป็นคดีเก่าในวาระที่เป็นนายก อบจ.เมื่อกว่าสิบปีมาแล้ว ไม่ใช่หรือ

ตอบ : มันเป็นคดีเก่า ในวาระก่อนๆกว่าสิบปีมาแล้วก็จริง แต่คุณช่วยดูกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรานี้ก่อนได้ไหม มาตรานี้เขาให้อนุโลมเอามาใช้กับ การต้องคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐอื่นๆด้วยนะครับ 

“มาตรา ๘๑ ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับฟ้องตามมาตรา  ๗๗  ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา  เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น”

คุณเห็นเป็นข้อแรกไหมว่า นี่เป็นข้อห้ามตามกฎหมาย ไม่ต้องรอให้ศาลสั่งอะไรเลย เมื่อคดีของคุณชาญถูกฟ้องแล้วศาลรับฟ้องแล้วและไม่สั่งเป็นอย่างอื่น ก็ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที

ถาม : แต่วาระที่เขาต้องคดีนั้น มันหมดไปแล้ว นี่เป็นวาระดำรงตำแหน่งใหม่ หน้าที่ใหม่ไม่ใช่หรือครับ กฎหมายยังตามมาห้ามอีกหรือ

ตอบ : ผมเห็นด้วยกับกฤษฎีกา ว่านี่เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยของราชการ  ไม่ให้คนที่ต้องคดีคอร์รัปชั่น ยังคงอยู่ในตำแหน่งอีก เขาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยาน หรือถ้าเป็นพยานบุคคล ก็จะยิ่งไม่กล้าพูดอะไรเลย

ถาม :  แล้วทำไมคดีที่ คุณทักษิณ แจ้งทรัพย์สินเป็นเท็จใช้คนขับรถถือหุ้นแทน สมัยเข้าดำรงตำแหน่ง รมต.ต่างประเทศ แล้วการไต่สวนล่วงเลย จน ปปช.มาฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ออกจากตำแหน่งนายกฯรัฐมนตรี ทำไมคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญข้างมากจึงเห็นว่าตำแหน่งนายกฯนี้เป็นตำแหน่งใหม่ที่ยังไม่มีปัญหาการแจ้งทรัพย์สิน เลยยกคำร้อง ปปช.ไปล่ะครับ

ตอบ : นั่นศาลข้างมากเขามองว่า การแจ้งทรัพย์สินแต่ละครั้ง มีขึ้นเพื่อไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งแต่ละครั้งเท่านั้น อันที่จริงคดีนั้น ถ้า ปปช.ฟ้องเป็นคดีอาญา ให้ลงโทษฐานแจ้งบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ นายกฯทักษิณก็ไม่มีทางรอดแน่ คดีคุณชาญนี่ก็เหมือนกัน มันเป็นคดีอาญาติดตัวไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งวาระใดก็ตาม และคดีนี้มีข้อห้ามทำหน้าที่ติดตรึงเป็นส่วนควบอยู่ด้วย ดังนั้นจะไปทำงานในวาระเดิมหรือวาระใหม่ ก็ต้องห้ามทำหน้าที่ไปตลอด

ถาม : ถ้ากฎหมายเป็นอย่างนี้ ใครคือผู้รับผิดชอบ จัดการไม่ให้คุณชาญ เข้าทำหน้าที่

ตอบ : อำนาจและความรับผิดชอบตรงที่สุด คือ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ที่ต้องกำกับดูแลราชการ อบจ.ปทุมธานี ให้เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมาย ถ้านิ่งเฉยปล่อยให้ นายกฯชาญ ในวาระใหม่ สั่งราชการไปโดยไม่มีอำนาจ ผู้ว่าฯปทุมก็ต้องรับผิดชอบ สำหรับราชการส่วนกลางนั้น ก็มี รัฐมนตรีมหาดไทยถืออำนาจบังคับบัญชา ผู้ว่าฯอยู่ด้วย  รัฐมนตรีจึงมีอำนาจหน้าที่สั่งให้ผู้ว่าฯปทุมธานีสั่งห้าม นายกฯชาญ ได้อีกชั้นหนึ่ง

ถาม : กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นสั่งอะไรบ้างได้ไหม

ตอบ : ไม่ได้ ได้แต่ส่งความเห็นให้รัฐมนตรีมหาดไทย หรือผู้ว่าฯปทุม เท่านั้นว่าอยู่เฉยไม่ได้

ถาม : ทำไมคดีคอรัปชั่น มันถึงได้นานผ่านไปเป็นสิบปี ก็ยังไม่ยุติอย่างนี้

ตอบ :  ต้องไปดูช่วงเวลาว่า มันช้าที่ตรงไหน แต่ตัวคุณชาญเอง รู้ทั้งรู้ว่าคาคดีมีข้อห้ามทำงานติดตัวอยู่อย่างนี้ ก็ไม่ควรลงสมัครตั้งแต่แรกแล้ว  เห็นว่ามีคดีซื้อของแพงถึงสองคดี ทั้งซื้อถุงยังชีพ และซื้อเครื่องออกกำลังกาย โดยค่าเสียหายของ อบจ.เป็นเงินถึง สามสี่สิบล้านเลยทีเดียวไม่ใช่หรือ

ถาม : คดีคาราคาซังเป็นสองคดีอยู่อย่างนี้ แล้ว อบจ.จะทำอย่างไร ราชการก็เสียหาย ไม่มี นายกฯมาจัดการดูแลให้จริงจังก้าวหน้า

ตอบ : เห็นอยู่ทางเดียวครับว่า  เขาควรลาออก และขอโทษประชาชนด้วย

ถาม : ต้องขอโทษพรรคเพื่อไทยด้วยไหม เห็นคนในพรรค ลงแรงเดินหาเสียงให้ด้วยนะครับ

ตอบ : นั่นเรื่องภายในของเขา เราน่าไปมองตรงพรรคเพื่อไทยดีกว่าว่า เขาจะรู้จักขอโทษประชาชนด้วยหรือไม่ หรือถ้าให้หัวหน้าพรรคอุ๊งอิ๊ง ออกมาตำหนิด่าว่าสั่งสอนแล้วสั่งให้คุณทักษิณออกมาขอโทษประชาชนเป็นส่วนตัวก็ดีเหมือนกัน  นี่เป็นโอกาสดีที่จะพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยว่า พรรคเพื่อไทยไม่ใช่สมบัติชินวัตร  

รู้จักพลิกวิกฤตเป็นโอกาสบ้างอย่างนี้ เลือกตั้งคราวหน้ารับรองว่าชนะก้าวไกลแน่นอน