ศาลฎีกาพิพากษา ประหารชีวิต "บรรยิน ตั้งภากรณ์" คดีฆาตกรรมอำพรางเสี่ยชูวงษ์

27 มิ.ย. 2567 | 14:55 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มิ.ย. 2567 | 15:20 น.
2.4 k

จบแล้ว คดีฆาตกรรมอำพราง “เสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ "เสี่ยจืด” ศาลฎีกาพิพากษายืนโทษประหารชีวิต “พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์” ตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

ผู้สื่อข่ารวายงานว่าในเช้าวันที่ 27 สิงหาคม 2567 ที่ศาลอาญาพระโขนง ได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีสะเทือนขวัญที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ "เสี่ยจืด" นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง ร่วมกับพนักงานอัยการ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ ในข้อหาร่วมกันฆาตกรรมนายชูวงษ์

สำหรับคดีนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2558 เมื่อนายชูวงษ์เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่ถูกรายงานว่าเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ โดยมี พ.ต.ท.บรรยินเป็นคนขับ อย่างไรก็ตาม การสืบสวนพบหลักฐานที่ชี้ว่าเหตุการณ์นี้เป็นการฆาตกรรมอำพราง
 

จากนั้นศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2564 ต่อมากศาลอุทธรณ์ยืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2565

และวันนี้(27มิ.ย.67) ศาลอาญาพระโขนง ได้มีการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ยืนยันโทษประหารชีวิต ตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์

ด้าน นายเอนก คำชุ่ม ทนายความฝั่งญาติ นายชูวงษ์ กล่าวว่าวันนี้ช่วงเช้า ศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้ โดยศาลฎีกาพิพากษายืนประหารชีวิตนายบรรยิน เเต่ในรายละเอียดต้องรอคัดคำพิพากษามาดูก่อน

ย้อนร้อยคดีฆาตกรรมอำพรางเสี่ย ชูวงษ์

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2558 ขณะนั้นนายชูวงษ์ อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ชนต้นไม้ ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. โดยมี พ.ต.ท.บรรยิน เป็นคนขับ เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตาย

ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ 

นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของนายชูวงษ์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7)