ศาลอุทธรณ์ยืนโทษประหาร! "บรรยิน ตั้งภากรณ์” คดีฆาตกรรมอำพรางเสี่ยชูวงษ์

25 ส.ค. 2565 | 13:48 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2565 | 21:33 น.
3.7 k

“บรรยิน ตั้งภากรณ์” อดีต รมช.พาณิชย์ คอตก ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนโทษประหารตามคำตัดสินของศาลชั้นต้น คดีฆาตกรรมอำพราง “เสี่ยชูวงษ์” นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเมื่อปี 2558  

25 ส.ค. 2565 ที่ศาลอาญาพระโขนง ถ.สรรพาวุธ ศาลอ่าน คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ที่นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือ เสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระดับประเทศ กับพวก และพนักงานอัยการ ร่วมกันเป็นโจทก์ที่ 1-5 ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ และอดีต ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย เป็นจำเลย ใน ความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่น เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7)

พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์

กรณีเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2558 นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์หรูยี่ห้อเลกซัสสีดำ ทะเบียน ภฉ 1889 กทม. ชนต้นไม้ มี พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย เป็นคนขับ มีนายชูวงษ์นั่งข้างๆ โดยชนต้นไม้ริม ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ระหว่างซอย 48 กับซอย 50 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. เป็นเหตุให้นายชูวงษ์ถึงแก่ความตาย ซึ่งโจทก์มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆาตกรรมอำพรางนายชูวงษ์ แต่ พ.ต.ท.บรรยิน จำเลย ให้การปฏิเสธอ้างเป็นอุบัติเหตุ เหตุเกิดที่ ต.บางโฉลง กับ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และแขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวกัน

โดยคดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.2564 การกระทำของจำเลยกับพวก จึงเป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ คบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย ปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7) ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษประหารชีวิต ต่อมาจำเลยได้ยื่นอุทธรณ์

 

โดยศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือเเล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริงที่ยื่นอุทธรณ์มาฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน

 

ทั้งนี้ ในอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันนี้ มีนางวันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ หรือ “เสี่ยจืด” เดินทางมาฟังคำพิพากษาด้วย

 

จากอดีตรัฐมนตรีสู่จอมบงการฆาตกรรมอำพราง

สำหรับประวัติโดยสังเขปของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ นั้น เขาเกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม  2506 พื้นเพเป็นคนนครสวรรค์ จบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 39  ระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยนเรศวร  

ปี 2543 เขาตัดสินใจเข้าสู่เส้นทางการเมือง โดยขณะดำรงตำแหน่ง สวป.สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้ลาออกจากราชการเพื่อมาลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.นครสวรรค์ ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2548 เขาอยู่ในสังกัดพรรคไทยรักไทย ในกลุ่มวังน้ำยมของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน กระทั่งเมื่อพรรคไทยรักไทยถูกยุบ จึงย้ายมาสังกัดกับพรรคมัชฌิมาธิปไตย

 

ปลายปี 2550 “พ.ต.ท.บรรยิน” ลงสมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน ในสังกัดพรรคมัชฌิมาธิปไตย และได้รับเลือกตั้ง

 

ในปี 2551 สมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ.ต.ท.บรรยิน นั่งเก้าอี้สูงสุดทางการเมืองเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระทั่งถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นระยะเวลา 5 ปี จากกรณียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งขณะนั้นนั่งเป็นรองหัวหน้าพรรค

 

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2557 พ.ต.ท.บรรยิน ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 32 และ ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป ปี  2562 ได้ลงสมัยรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 21 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้งเนื่องจากพรรคเพื่อไทยมีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากกว่าจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพึงมีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้

 

ช่วงเดือนสิงหาคม 2558 ปรากฏเป็นข่าวครึกโครม พ.ต.ท.บรรยิน ถูกออกหมายจับใน 4 ข้อหา คือ

  • ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์
  • รับของโจร
  • ปลอมแปลงเอกสาร และ
  • ใช้เอกสารปลอมโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาชื่อดัง 

 

เดือนมิถุนายน 2559 พ.ต.ท.บรรยิน ตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง ถูกจับกุมตัวในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณีการเสียชีวิตของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง

 

ตำรวจกองปราบปรามบุกเข้าจับตัว พ.ต.ท.บรรยิน พร้อมพวกรวม 3 คน ข้อหาร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงานฯ เป็นซ่องโจรฯ และเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด โดยเจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน พบว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ อดีตเจ้าของสำนวนคดีหุ้นนายชูวงษ์ ซึ่งเข้าแจ้งความกับตำรวจว่า พี่ชายถูกกลุ่มคนร้ายลักพาตัว และถูกข่มขู่ให้พิพากษายกฟ้องและคืนหุ้นทั้งหมดในคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน กับพวก ที่ตกเป็นจำเลยในคดีการเสียชีวิตและโอนหุ้นของ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ซึ่งต่อมาพบว่า ถูกฆ่าเผานั่งยาง

 

20 มีนาคม 2563 ศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายบรรยิน 8 ปี ในความผิดปลอมเอกสารการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ ระหว่างที่ พ.ต.ท.บรรยินถูกคุมขัง ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พ.ต.ท.บรรยิน วางแผนจะหลบหนีออกจากเรือนจำโดยการใช้ระเบิด และมีแผนจะให้เฮลิคอปเตอร์มารับ รวมทั้งจะให้ลูกน้องไปลักพาตัวภรรยาผู้บัญชาการเรือนจำมาเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองในการหลบหนี แต่ทำไม่สำเร็จ  จึงถูกย้ายไปจำคุกที่เรือนจำบางขวางแทน

 

12 มิถุนายน 2563 มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.บรรยิน พยายามฆ่าตัวตายแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถช่วยชีวิตของพ.ต.ท.บรรยินเอาไว้ได้ทัน

 

15 ธันวาคม 2563 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาสั่งประหาร “พ.ต.ท.บรรยิน” กับพวก 4 คน ในคดีร่วมกันอุ้มฆ่าเผา นายวีรชัย พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ แต่ทั้งหมดรับสารภาพให้การเป็นประโยชน์ ศาลลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต

 

แต่ในคดีอำพรางฆ่าเสี่ยชูวงษ์นั้น ศาลพิพากษายืนโทษประหารชีวิต