วิธีการเลือก สว.2557 เช็กขั้นตอนเลือกระดับอำเภอ-จังหวัด และ ระดับประเทศ

26 พ.ค. 2567 | 07:07 น.
7.0 k

วิธีการเลือก สว.2557 หลัง กกต. ปิดรับสมัครเผยมีผู้ผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นไม่มีลักษณะต้องห้ามจำนวน 48,117 คน เช็กขั้นตอนเลือกระดับอำเภอ-จังหวัด และระดับประเทศ

จากกรณีที่ กตต.หรือ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ปิดรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้มาสมัครทั้งสิ้นจำนวน 48,226 คน และตรวจสอบเบื้องต้นในวันสมัครแล้วว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม มีเอกสารครบจึงรับสมัครไว้ก่อน จำนวน 48,117 คน 

ขณะที่ผู้สมัครที่ตรวจเบื้องต้น ณ ที่รับสมัครแล้วไม่มีคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้าม จึงไม่รับสมัครไว้ มีจำนวน 109 คน

วิธีการเลือก สว.2557  กกต. ได้กำหนดดังนี้

กระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

  • พระราชกฤษฏีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภามีผลใช้บังคับ
  • กกต. ประกาศกำหนดวันและเวลารับสมัคร และวันเลือกระดับอำเภอ จังหวัดและประเทศ
    (ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาฯ มีผลใช้บังคับ)
  • ผู้อำนวยการการเลือกระดับอำเภอประกาศกำหนดสถานที่รับสมัคร
    (วันถัดจากวันที่ กกต. ประกาศ)
  • เปิดสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยมีระยะเวลารับสมัคร 5 - 7 วัน
    (ไม่ช้ากว่า 15 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาฯ มีผลใช้บังคับ)
  • ประกาศบัญชีรายชื่อผู้สมัคร
    (ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่สิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร)
  • การเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับอำเภอ
    (ภายใน 20 วัน นับแต่วันที่สิ้นสุดระยะเวลารับสมัคร)
  • การเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับจังหวัด
    (ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่เลือกระดับอำเภอ)
  • การเลือกสมาชิกวุฒิสภา ระดับประเทศ
    (ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่เลือกระดับจังหวัด) 
  • กกต. ประกาศผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา

วิะีการเลือก สว.2567

 

ขั้นตอนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา เลือกระดับอำเภอ-จังหวัด-ประเทศ

ประกาศให้มีการเลือก สว.

  • ภายใน 5 วัน นับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือก สว.
  • ใช้บังคับ ให้ กกต. ประกาศกำหนดวันเลือกระดับอำเภอ
  • ระดับจังหวัด และระดับประเทศ

การสมัครรับเลือก สว.

  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกสมัครได้ 1 กลุ่มอาชีพ และ 1 อำเภอเท่านั้น
  • เริ่มรับสมัครไม่เกิน 15 วันนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาให้มี
  • การเลือก สว. ใช้บังคับ และกำหนดวันรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วัน แต่ต้องไม่เกิน 7 วัน

การเลือก สว. ระดับอำเภอ

  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกกันเองในกลุ่ม เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใด เกิน 1 คะแนนไม่ได้
  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน กลุ่มละ 1 คน แต่จะเลือกกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเองไม่ได้

การเลือกรอบที่ 1

  • เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน เป็นผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1 - 5 เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้นและเข้าไปเลือกในรอบที่ 2 ต่อไป  (เหลือกลุ่มละ 5 คน)

การเลือกรอบที่ 2

  • เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 3 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัด สำหรับกลุ่มนั้น

การเลือก สว. ระดับประเทศ

  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกกันเองในกลุ่ม เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใดเกิน 1 คะแนนไม่ได้
  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน กลุ่มละ 1 คน แต่จะเลือกกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเองไม่ได้

การเลือกรอบที่ 1

  • เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน ผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1-5 เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้น และ เข้าไปเลือกในรอบที่ 2 ต่อไป (เหลือกลุ่มละ 5 คน)

การเลือกรอบที่ 2

  •  เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน ผู้ได้รับคะแนนสูงสุด 2 ลำดับแรก ของแต่ละกลุ่มเป็นผู้ได้รับเลือกระดับจังหวัด สำหรับกลุ่มนั้น

การเลือก สว.ระดับประเทศ

  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกกันเองในกลุ่มได้ไม่เกิน 10 คน เลือกตนเองก็ได้ แต่จะลงคะแนนให้บุคคลใด เกิน 1 คะแนนไม่ได้
  • ผู้สมัครรับเลือกฯ เลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน กลุ่มละไม่เกิน 5 คน แต่จะเลือกกลุ่มเดียวกันหรือเลือกตนเองไม่ได้

การเลือกรอบที่ 1

  • เลือกบุคคลในกลุ่มเดียวกัน  ผู้ได้คะแนนสูงสุดลำดับที่ 1 - 40 เป็นผู้ได้รับเลือกขั้นต้นของกลุ่มนั้น และเข้าไปเลือกในรอบที่ 2 ต่อไป

การเลือกรอบที่ 2

  • เลือกผู้สมัครกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน เลือกผู้สมัครในกลุ่มอื่นที่อยู่ในสายเดียวกัน ผู้ได้รับคะแนนลำดับที่ 1-10 และลำดับที่ 11-15 อยู่ในบัญชีสำรองของกลุ่มนั้น

ประกาศผลการเลือก สว.

  • เมื่อ กกต. ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศแล้ว ให้รอไว้ไม่น้อยกว่า 5 วัน เมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ถ้า กกต. เห็นว่าการเลือกเป็นไปโดยถูกต้องสุจริต และเที่ยงธรรมให้ประกาศผลการเลือกในราชกิจจานุเบกษา.

ที่มา: กกต.