ศิริกัญญา ดีดลูกคิด ใช้หนี้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้าน

วันนี้ (20 เมษายน 2567) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงการใช้งบประมาณ 5 แสนล้านบาท สำหรับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต คนละ 10,000 บาท จำนวน 50 ล้านคน ว่า เป็นภาระที่ต้องจ่ายร่วมกัน ซึ่งงบประมาณที่มาจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การรเกษตร (ธ.ก.ส.) ตกลงเรียกว่ากู้หรือไม่กู้ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าเอาเงินใครมา เอาเงินคนอื่นไปใช้ก่อนแล้วค่อยจ่ายคืนทีหลังพร้อมดอกเบี้ย เรียกว่าคือการกู้ เป็นเงินที่ต้องจ่ายคืนแทบทั้งสิ้น 

“เอาเฉพาะดอกเบี้ย ประมาณ 320,000 ล้านบาทสำหรับปีหน้าที่ต้องจ่ายทั้งหมด รวมเงินต้นอีก รวมแล้วประมาณ 5 แสน บวกกับเงินที่ต้องคืน ธ.ก.ส.อีก ตีว่าคืนปีละแสนล้าน จากเดิมที่คือ 6 หมื่นล้าน ถึง 8 หมื่นล้าน ก็คือประมาณ 6 แสนล้านอย่างเดียวที่ใช้คืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละปี ซึ่งไม่รู้ว่าจะใช้หมดเมื่อไหร่ ถ้าพายุหมุนไม่ได้มาตามนัด”น.ส.ศิริกัญญากล่าว

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า รัฐบาลต้องออกมาให้ความชัดเจน ออกมาให้ความมั่นใจกับลูกธ.ก.ส.ว่า เงินที่จะเอามาใช้ในเงินดิจิทัลวอลเล็ตเพียงพอ ไม่กระทบกับเงินสด หรือว่า สภาพคล่องของ ธ.ก.ส. ซึ่งการที่เอาเงินมาให้รัฐบาลใช้ก่อนมีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่ ธ.ก.ส.จะเอาไปปล่อยกู้ให้กับเกษตรกร หรือโครงการอื่นที่ธ.ก.ส.จะได้กำไรกลับมาแบบที่คาดการณ์ได้

“ให้รัฐบาลแล้วไม่รู้จะจ่ายคืนเมื่อไหร่ บางทีใช้คืนไม่เท่ากับที่ตกลงกันไว้ ธ.ก.ส.ก็ต้องมีต้นทุนส่วนเพิ่ม ต้องบริหารเงิน ต้องไปยืมตรงโน้น ตรงนี้มาโปะ เกิดเป็นต้นทุน สุดท้ายปฏิเสธไม่ได้ว่า อาจจะไปกระทบดอกเบี้ยของเกษตรกรก็เป็นไปได้"

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ขอให้รัฐบาลออกมาให้ความมั่นใจ ประชาชนจะได้ไม่ไปถอนเงิน ไปถอนสลากธ.ก.ส.ก่อนที่จะถูกรางวัล ซึ่งประชาชนมีสิทธิไม่เชื่อมั่นสถานะทางการเงินของธ.ก.ส. ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่ออกมาชี้แจงให้ชัดเจน อย่าโทษประชาชนที่ไปแห่ถอนเงินเพราะไม่รู้เรื่อง คุณต่างหากที่ต้องให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชน

น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า ส่วนกู้ได้หรือไม่ ใช้เงินธ.ก.ส.ได้หรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย พ.ร.บ.วินัยการเงินการรคลัง มาตรา 28 ใช้ได้ มีกฎหมายควบคุมอยู่ว่าใช้อะไรได้ ใช้อะไรไม่ได้ ซึ่งดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้มีเงื่อนไขว่าเอาไปใช้ได้เฉพาะซื้อปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์ จอบ เสียม