ศาลยุติธรรมประกาศตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา

18 มี.ค. 2567 | 18:59 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2567 | 19:06 น.
632

ราชกิจจาฯ ประกาศการจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา เพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดี และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจะเริ่มทําการเมื่อใดให้เป็นไปตามประกาศของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา

วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา

โดยที่อาชญากรรมที่ใช้วิธีการทางเทคโนโลยีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มีรูปแบบการกระทําความผิดที่ซับซ้อนตามพัฒนาการทางเทคโนโลยีซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และพยานหลักฐานในคดีส่วนมากอยู่ในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ประกอบกับการใช้มาตรการตามกฎหมายในบางกรณี เพื่อป้องกันหรือรับมืออาชญากรรมประเภทนี้ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ ต้องอาศัยคําสั่งศาล 

                                  
 

ดังนั้น เพื่อให้คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา และคําร้องขอใช้มาตรการตามกฎหมายได้รับการพิจารณา โดยผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและทันท่วงที อันจะทําให้การพิจารณาพิพากษาคดี และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจําเป็นต้องจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้นในศาลอาญา

                       ศาลยุติธรรมประกาศตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๔ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๐ แห่งพระธรรมนูญศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมออกประกาศให้จัดตั้งแผนกในศาลอาญา ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม เรื่อง การ แผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา”

ข้อ ๒ ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ ๓ ในประกาศนี้ 

“คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” หมายความว่า คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทําความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และคดีดังต่อไปนี้ไม่ว่าจะมีข้อหาอื่นหรือ ความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกันรวมอยู่ด้วยหรือไม่ก็ตาม

(๑) คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทําความผิดฐานฉ้อโกง กรรโชก หรือรีดเอาทรัพย์ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ

(๒) คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคล ที่กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

(๓) คดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคล ที่กระทําความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล 
ข้อ ๔ ให้จัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา โดยให้มีอํานาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้

(๑) พิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่อยู่ในเขตอํานาจ และที่โอนมาตามกฎหมาย เว้นแต่คดีที่อยู่ในอํานาจพิจารณาพิพากษาของแผนกคดียาเสพติดและแผนกคดีค้ามนุษย์

(๒) พิจารณาและมีคําสั่งเกี่ยวกับคําร้องของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ กฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

                            ศาลยุติธรรมประกาศตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา

ข้อ ๕ ให้มีผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญาเป็นผู้รับผิดชอบงานในแผนกหนึ่งคน และให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาจัดให้ผู้พิพากษาที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีจํานวนตามที่เห็นสมควร เป็นผู้พิพากษาประจําแผนก มีหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาพิพากษาคดี และงานของแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา ตลอดจนช่วยเหลือผู้พิพากษาหัวหน้าแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในการบริหารและดําเนินงานต่าง ๆ ของแผนกให้เป็นไปโดยเรียบร้อย

ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อประโยชน์แก่ราชการ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาอาจมอบหมายให้ผู้พิพากษาอื่น นอกจากวรรคหนึ่ง เป็นองค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็ได้

ข้อ ๖ แผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา จะเริ่มทําการเมื่อใด ให้เป็นไปตามประกาศ ของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา

ข้อ ๗ ให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญารักษาการตามประกาศนี้

ประกาศ ณ วันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๗

อโนชา ชีวิตโสภณ

ประธานศาลฎีกา 

ประธานกรรมการบริหารศาลยุติธรรม

คลิกอ่านจากราชกิจจานุเบกษา