4 ตัวเต็งชิงผบ.ตร.คนที่ 15 “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรง

28 ก.พ. 2567 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2567 | 13:16 น.
21.7 k

4 ตัวเต็งชิงผบ.ตร.คนที่ 15 “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรง : เทียบฟอร์ม ณ เวลานี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรงกว่าใครอื่นที่จะคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 15 ไปครอง …รายงานพิเศษ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3970

KEY

POINTS

  • “บิ๊กโจ๊ก” ตัวเต็งผบ.ตร.คนต่อไป กำลังเจอมรสุมกระหน่ำเข้าใส่จากคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ 
  • พนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับ 149 หลังพบเส้นทางการเงินโยงเว็บพนัน 
  • เทียบฟอร์มในบรรดา 4 ตัวเต็งชิงเก้าอี้ผบ.ตร. คนที่ 15 ณ เวลานี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรงกว่าใครเพื่อนที่จะคว้าเก้าอี้ไปครอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) ตัวเต็ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) คนที่ 15 แทน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.คนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2567 นี้ กำลังเจอกับ “มรสุม” กระหน่ำเข้าใส่ 

เพราะคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ เตรียมจะแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กับ 149 กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หลังพบเส้นทางการเงินโยงเว็บพนันมินนี่ 

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างที่คณะพนักงานสอบสวนคดีจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์มินนี่ ทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ส่งสำนวนกลับมาที่ตำรวจ 

สำหรับคดีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ตรวจสอบเครือข่ายเว็บการพนัน “มินนี่” นั้น แบ่งออกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรก มีผู้ต้องหา 61 คน ทั้งตำรวจและประชาชน มูลค่าความเสียหายกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นคดีหลัก 

ส่วนสำนวนคดีที่ 2 มีผู้ต้องหา 5 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหนึ่งในนั้น คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ต่อมา บก.ปปป.ส่งทั้ง 2 สำนวนไปยัง ป.ป.ช. เพื่อร้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 149 

ป.ป.ช.เลื่อนถกคดีบิ๊กโจ๊ก

ล่าสุด เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา เดิมคณะกรรมการ ป.ป.ช. แจ้งว่า จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาว่า จะรับหรือไม่รับสำนวน “คดีมินนี่” ในสำนวนที่ 2 ที่ปรากฏชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ 

แต่เนื่องจากมีกรรมการ ป.ป.ช. 1 ราย แจ้งลาป่วย ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม ไม่สามารถลงมติตามกฎหมายได้ จึงต้องเลื่อนวาระดังกล่าวออกไปก่อน

ปัจจุบัน คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.วัชรพล  ประสารราชกิจ ประธาน, นายวิทยา อาคมพิทักษ์, น.ส.สุวณา สุวรรณจูฑะ, นายสุรชาติ ตระกูลเกษมสุข และ นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ

สำหรับ “คดีมินนี่” ในส่วนที่ปรากฏชื่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหานั้น บก.ปปป. กล่าวหากระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน กรณีพบความเชื่อมโยงไปยังกลุ่มบัญชีม้าเครือข่ายเว็บพนัน “มินนี่” น.ส.ธันยนันท์ สุจริตชินศรี

โดยคดีนี้ก่อให้เกิดวิวาทะกันระหว่าง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ที่ต้องการดึงสำนวนจาก ป.ป.ช.กลับมาดำเนินการต่อ พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาฟอกเงินเพิ่มเติม 

ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมายืนยันในความบริสุทธ์ พร้อมสวนกลับ พล.ต.ต.จรูญ ว่าอย่าล้ำเส้นการทำงานของ ป.ป.ช. จนทำให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ต้องออกมาปราม และสั่งงดให้ข่าวกับสื่อไปก่อน

คดีของ “บิ๊กโจ๊ก” ที่อยู่ในมือ ป.ป.ช.ทั้ง 5 คน ต้องจับตาว่า ป.ป.ช.จะชี้ไปทางไหน จะส่งกลับให้ตำรวจ หรือ เดินหน้าดองเรื่องไว้ที่ป.ป.ช.จนกว่า บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ จะเกษียณอายุราชการในเดือนก.ย.นี้ ต้องติดตาม  

                            4 ตัวเต็งชิงผบ.ตร.คนที่ 15 “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรง

บิ๊กโจ๊กยังมาแรงผบ.ตร.

อย่างไรก็ตาม สำหรับตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 15 ณ ขณะนี้ชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังถือว่า “มาแรง” กว่าใครอื่นในบรรดาตัวเต็งทั้ง 4 คน ที่อยู่ในไลน์ชิงเก้าอี้ ผบ.ตร.

สำหรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 47) จะเกษียณอายุราชการในปี 2574 มีอาวุโสอันดับ 1 

บิดาที่เคยทำงานใกล้ชิด “บ้านดามาพงศ์” อยู่กับ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ บิดา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีต ผบ.ตร. และ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 

ล่าสุดมีรายงานว่า “บิ๊กโจ๊ก” มีสายสัมพันธ์อันดีกับ โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ...ก็ไม่แน่อาจได้รับการสนับสนุนให้ไปถึง “ดวงดาว” ในตำแหน่ง ผบ.ตร.คนต่อไป ก็ว่าได้ 

แต่ “บิ๊กโจ๊ก” ก็มี “จุดอ่อน” คือ คนแวดวงสีกากีมองว่าเป็น “ขุนเข่าไร้น้ำใจ” และตำรวจใต้สังกัดบางคนมีคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์

ถัดมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ หรือ “บิ๊กต่าย” รอง ผบ.ตร. เป็น นรต.รุ่น 41 คนสนิท “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร.คนที่ 12 จะเกษียณอายุราชการในปี 2569 เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความโดดเด่นทำงานด้านบริหารมาตลอด ไม่มีแผลใดๆ 

ลำดับที่ 3 เป็น พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ นรต.รุ่น 39 เกษียณอายุราชการในปี 2568 

และคนสุดท้ายคือ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. นรต.42 สายตรง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. จะเกษียณอายุราชการในปี 2569

ทียบฟอร์ม ณ เวลานี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรงกว่าใครอื่นที่จะคว้าเก้าอี้ ผบ.ตร.คนที่ 15 ไปครอง

                             4 ตัวเต็งชิงผบ.ตร.คนที่ 15 “บิ๊กโจ๊ก” ยังมาแรง

+++

“ประจวบ วงศ์สุข”
หมดลุ้นเก้าอี้ผบ.ตร.?

สำหรับ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 39 ซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับ ทักษิณ ชินวัตร ก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่า จะได้ขึ้นเป็น “รอง ผบ.ตร.” เพื่อเตรียมลุ้นตำแหน่ง ผบ.ตร.คนที่ 15 ด้วยนั้น 

ในการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2567 เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ได้ผ่านร่างข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ…. ใช้สำหรับการแต่งตั้งวาระเดือน เม.ย. 

โดยมีแนวทางหลักคือ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ ตร. (ยศ พล.ต.อ. เทียบรองผบ.ตร.) 10 ตำแหน่งพิจารณาจากผู้ช่วย ผบ.ตร., รองจเรตำรวจแห่งชาติ ไม่น้อยกว่า 1 ปี

ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) (ยศ พล.ต.ท. เทียบผู้บัญชาการ) มี 20 ตำแหน่ง พิจารณาจากระดับรองผู้บัญชาการ, รองจเรตำรวจ ไม่น้อยกว่า 2 ปี

และ ผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. (ยศ พล.ต.ต. เทียบผู้บังคับการ) มี 30 ตำแหน่ง พิจารณาจากผู้ดำรงตำแหน่งระดับรองผู้บังคับการ ไม่น้อยกว่า 4 ปี โดยทั้ง 3 ตำแหน่งพิจารณาเรียงตามลำดับอาวุโส

ขณะเดียวกัน ก.ตร.ยังมีมติเห็นชอบร่างกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ…. โดยจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 88 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มใช้ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2567 ประมาณเดือน ส.ค.นี้

ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ได้ถอนวาระ “ข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ” ที่เคยประกาศใช้เมื่อวันที่ 17 ก.ค.2566 นำมาใช้อนุโลมเพื่อแต่งตั้งเดือน เม.ย.นี้ออกไป 

ดังนั้น นับจากนี้ไปอีกราว 6 เดือน ด้วยข้อจำกัดด้านกฎหมาย ทำให้ไม่สามารถแต่งตั้ง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ขึ้นเป็นรอง ผบ.ตร.ได้

แม้จะมีการโยก พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งเกษียณอายุราชการในเดือนก.ย.นี้ ข้ามห้วยไปเป็น เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

อีกตำแหน่งหนึ่งที่ว่างลงคือ ผู้ช่วยผบ.ตร. เนื่องจาก พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่จะเกษียณอายุปี 2568 โอนย้ายไปนั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) 

ทำให้ 2 ตำแหน่งที่ว่างลงต้องไปรอแต่งตั้งในวาระประจำปี 2567 ประมาณเดือน ส.ค.นี้