หนุ่ม-สาวเมียนมา ทะลักเข้าชายแดนไทย หนีบังคับเกณฑ์ทหาร

ตามที่กองทัพเมียนมา ได้ประกาศกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารแก่พลเรือนชาย และหญิง โดยระบุช่วงอายุ 18-35 ปี และผู้หญิงถูกกำหนดไว้ที่ 18-27 ปี และต้องรับใช้กองทัพเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี บุคคลที่ไม่ไปรายงานตัวตามหมายเรียกอาจถูกลงโทษจำคุกเท่ากับจำนวนปีที่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารนั้น ส่งผลให้หน่วยความมั่นคงของไทยตามแนวชายแดนเข้มงวดมากขึ้น 

พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ  ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ฉก.ราชมนู) ซึ่งดูแลพื้นที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก  ได้สั่งการให้กำลังพลเจ้าหน้าที่ ทหารกองบังคับการควบคุม หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และ ชุดปฎิบัติการลาดตระเวนระยะไกล กองกำลังนเรศวร ออกลาดตระเวนแนวชายแดน และได้ตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจำนวน 27 คน แบ่งเป็น ชาย13 คน และหญิง 14 คน บริเวณข้างลำธาร บ้านป่าคาใหม่ หมู่ 6 ต.คีรีราษฏร์ อ.พบพระ จ.ตาก  ในการจับกุมครั้งนี้ นับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน

จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารเเสดงตัวตน กลุ่มแรงงานต่างด้าวให้ข้อมูลว่า ได้เดินทางมาจากเมืองเมียวดี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ข้ามมาช่องทางธรรมชาติ ริมแม่น้ำเมย โดยมีกลุ่มขบวนการมารอเพื่อลำเลียงและนำไปพักไว้ในพื้นที่ดังกล่าว จึงถูกเจ้าหน้าที่ทหารมาตรวจพบ ส่วนใหญ่อายุอยู่ในรอบเกณฑ์ทหาร จากการที่ทางการเมียนมา ประกาศให้ผู้ชาย และผู้หญิง ที่มีอายุ ตั้งแต่ 18 ปี ต้องเป็นทหาร 2-5 ปี มีผลตั้งแต่ 10 กันยายน  2567 ทำให้แนวโน้ม กลุ่มวัยหนุ่มสาว เมียนมา หนีเข้าไทยมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีกลุ่มหนุ่ม -สาวชาวเมียนมา ทะลักเข้ามาชายแดนไทยเพิ่มขึ้น อีกโดยเจ้าหน้าที่ ได้ควบคุมตัว ชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมตัวในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567  จำนวน 27 คน ( ชาย13 คน และหญิง 14 คน) นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.พบพระ จ.ตาก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ (15 ก.พ.67) เจ้าหน้าที่ทหารราชมนู กองกำลังนเรศวร ได้ออกลาดตระเวน ในพื้นที่อำเภอพบพระ จ.ตาก พบบุคคลสัญชาติเมียนมา จำนวน 27 คน แบ่งเป็นชาย 11 คน หญิง 16 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณป่ากล้วย ที่บ้านแม่ละเมา ต.คีรีราษฎร์ อ.พบพระ

หลังตรวจสอบเอกสารคนเข้าเมือง แต่บุคคลทั้งหมดไม่สามารถแสดงเอกสารได้ ทั้งหมดยอมรับว่าได้ลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติเพื่อเข้าไปทำงานในพื้นที่ กทม. เจ้าหน้าที่ได้นำคนต่างด้าวทั้งหมดส่งดำเนินคดีที่ สภ.พบพระ

แหล่งข่าวผู้นำสูงสุด กองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลทหารเมียนมา ได้มีการประกาศบังคับใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหารแก่พลเรือนชายและหญิงนั้น   ทางด้านชนกลุ่มน้อยกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ไม่ได้หวั่นเกรงแต่อย่างใด และมองว่า รัฐบาลทหารเมียนมา ได้หมดหนทางในการสู้รบกับ กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ ซึ่งหากมีการเกณฑ์ทหารจริง คนเหล่านั้นที่ถูกเกณฑ์และถูกบังคับมาเป็นทหารย่อมไม่พอใจ 

ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่พากองทหารใหม่เหล่านั้น แปรพักตร์มาหาชนกลุ่มน้อย กลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ อย่างแน่นอน ในปัจจุบันมีทางเดียวที่รัฐบาลทหารเมียนมา จะหาทางออกได้คือ การหันหน้าเข้าเจรจากับชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม และเปิดทางให้มีการปกครองในรูปแบบสหพันธรัฐ และหันหน้ามาร่วมพัฒนาประเทศ

เรื่องดังกล่าว ทางด้านชนกลุ่มชาติพันธุ์กลุ่มต่าง ๆ ได้เคยเสนอให้รัฐบาลทหารเมียนมา มาแล้วหลายสิบปี แต่รัฐบาลทหารเมียนมาไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว จนทำให้มีการลุกฮือต่อต้านทหารรัฐบาลอย่างรุนแรง จนถึงทุกวันนี้