เปิดหนังสือ ผบ.ตร. รับรอง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ไม่ขาดคุณสมบัติ กรรมการ ป.ป.ช.

21 ธันวาคม 2566 รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีหนังสือ ที่ ตช.0009.222/6782  รับรองคุณสมบัติเป็นผู้สมัครรับการคัดเลือกเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าตำแหน่งอธิบดีตามระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบเท่าตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563 ประกอบกับมติ ก.ตร.ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 รวมแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ดังนี้

• ผู้บังคับการ กองตรวจราชการ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557 
• ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2558 
• ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 8 กันยายน 2559
• ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2559 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2559
• ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565 
• ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ถึงปัจจุบัน 

หนังสือฉบับดังกล่าวลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ลงนามโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 

พ.ร.บ.หลักเกณฑ์เทียบเท่าอธิบดี ต้นขั้ว ระเบียบ ก.ตร.

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบเท่าตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563 ออกตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) หลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2562 มาตรา 4 ในการพิจารณาเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี อย่างน้อยต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

• เป็นตำแหน่งที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือตามกฎหมายอื่น 
• เป็นตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการไม่ว่าส่วนราชการนั้นจะมีฐานะเป็นนิติบุคคลหรือไม่
• เป็นตำแหน่งประเภทบริหารซึ่งมีหน้าที่และอำนาจตากฎหมายในการบังคับบัญชา บริหารงาน บริหารงานบุคคล และบริหารงบประมาณของส่วนราชการนั้น ซึ่งไม่นับรวมถึงหน้าที่และอำนาจในฐานะผู้รับมอบอำนาจ 

ขณะเดียวกัน เนื่องจากพ.ร.บ.หลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2562 มาตรา 5 ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการเทียบตำแหน่งตาม พ.ร.บ.นี้ ให้องค์กรกลางบริหารงานบุคคลตามกฎหมายของแต่ละส่วนราชการวางระเบียบเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี สำหรับใช้กับข้าราชการในส่วนราชการของตน

โดยการวางระเบียบดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดในมาตรา 4 รวมทั้งมีหน้าที่และอำนาจในการเทียบตำแหน่งข้าราชการในส่วนราชการของตนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระเบียบนั้น 
ทั้งนี้ ระเบียบหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี ต้องได้รับความเห็นชอบจาก “คณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการเทียบตำแหน่ง” ด้วย 

จึงเป็นที่มาของการออก “ระเบียบ ก.ตร.ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563” ประกาศ ณ วันที่ 5 พฤษภาคม 2563 ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ 

ตามมติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการเทียบตำแหน่ง ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ (โดยตำแหน่ง) ในการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563  

สำหรับบัญชีแนบท้ายบัญชีตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี หน่วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับอนุมัติจาก ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 3/2563 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2563 ตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล อยู่ในลำดับที่ 47 ชั้นยศ พลตำรวจโท 

ปลดล็อกนายพลนั่ง ป.ป.ช. 506 ตำแหน่ง 

ไม่มีเพียงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ที่ออกระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ 262 ตำแหน่ง 

แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขณะนั้น ยังลงนามประกาศ ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงกลาโหมที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563 จำนวนถึง 244 ตำแหน่ง ประกอบด้วย

• สำนักงานรัฐมนตรีและสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 18 ตำแหน่ง

• กองบัญชาการกองทัพไทย 33 ตำแหน่ง

• กองทัพบก 123 ตำแหน่ง

• กองทัพเรือ 37 ตำแหน่ง

• กองทัพอากาศ 33 ตำแหน่ง