ลุ้นพรุ่งนี้ ศาลรธน.กำหนดวันชี้ชะตา“พิธา-ก้าวไกล”ปมถือหุ้นสื่อ-แก้ม.112

14 พ.ย. 2566 | 17:24 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ย. 2566 | 17:29 น.

จับตาศาลรธน.นัดพรุ่งนี้ ถกต่อคดี "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ถือหุ้นสื่อ และคดี “ก้าวไกล” เสนอนโยบายยกเลิก ม.112 ลุ้นกำหนดวันลงมติ

วันนี้ (14 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมประจำสัปดาห์ตามปกติ โดยมีวาระที่น่าสนใจ คือ การนัดพิจารณาคดีต่อ กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ จากกรณีเป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) 

คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้อง เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 66 และ นายพิธา ผู้ถูกร้องได้ยื่นขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาจำนวน 2 ครั้งๆ ละ 30 วัน ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญอนุญาตตามคำขอ

โดยศาลรัฐธรรมนูญได้ดำเนินกระบวนพิจารณามาแล้ว 11 ครั้ง เรียกให้บุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำความเห็นและจัดส่งเอกสารหลักฐานจำนวน 12 ราย

รวมทั้งคดีที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของพระพุทธะอิสระ ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขณะนั้น ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. ... เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้ง และยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิ หรือ เสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง หรือไม่ 

โดยคดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งรับคำร้องเมื่อวันที่ 12 ก.ค. 66 และดำเนินกระบวนพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานมาแล้ว 37 ครั้ง และผู้ถูกร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีระบุพยานบุคคลฉบับลงวันที่ 9 ต.ค. 66 และบัญชีระบุพยานบุคคลเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ฉบับลงวันที่ 18 ต.ค. 66 

มีรายงานว่า การประชุมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ เป็นการนัดประชุมเพื่อวางแนวทาง และหลักเกณฑ์ของการพิจารณาคดีเท่านั้น ยังไม่ได้นัดลงมติ หรือ วินิจฉัยคดี 

ส่วนจะมีการเรียกพยานเอกสารเพิ่มเติม หรือ ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนพยานเพื่อประกอบการพิจารณาคดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าเอกสารและข้อมูลที่ได้รับมาก่อนหน้านี้ครบถ้วนแล้วหรือไม่ และหากครบถ้วนเพียงพอที่จะกำหนดวันนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติหรือไม่