"ปดิพัทธ์"ยันดูงานสิงคโปร์ ตั้งงบตามระเบียบ เตรียมแจง 20 ก.ย.นี้

18 ก.ย. 2566 | 10:15 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2566 | 15:23 น.

"ปดิพัทธ์"ยันตั้งงบฯดูงานสิงคโปร์ ตามระเบียบ โปร่งใส่ ตรวจสอบได้ เตรียมแจง 20 ก.ย.นี้ ขณะที่"แทนคุณ​"จี้สำนึกก้าวไกลรีบไล่หมออ๋อง ก่อนผลาญ​ภาษี

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งข้อสังเกตจัดคนไปดูงานที่ประเทศสิงคโปร์ ใช้งบสูงเกินความเป็นจริงว่า เจ้าหน้าที่เมื่อมีโครงการค่าใช้จ่ายก็ต้องเรียนค่าใช้จ่ายตามระเบียบงบประมาณ 1 สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง ว่าในการเดินทางเบิกได้เท่าไหร่อย่างไรบ้าง

เป็นการตั้งงบประมาณแบบสูงสุดไว้ก่อน แต่การใช้จ่ายเป็นไปตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งถูกกว่าที่ตั้งงบประมาณไว้อยู่แล้วและเมื่องบประมาณเหลือก็ต้องส่งกลับคืนคลังทั้งหมด 

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1

เรื่องการจองที่พักและการเดินทาง เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ จะต้องดำเนินการตามระเบียบ แต่ตนก็ได้ให้นโยบายว่ายาเต็มที่นักเลย ยังบอกว่าให้บินสายการบินประหยัดด้วยซ้ำ และค่าที่พักไม่จำเป็นต้องถึง 12,000 บาท เพียง 7,000 - 8,000 ก็พอ แต่จะให้ไปนอนโฮสเทลก็ไม่ใช่เรื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไปทำการบ้านมา แต่มีระเบียบว่าตนต้องบินด้วยสายการบินแห่งชาติ 
 

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณไม่คุ้มค่านั้น นายประดิพัทธ์ ระบุว่า ขอให้รอดูผลการทำงานของตนหลังจากกลับมาก่อนอย่าคาดการณ์ตั้งแต่ตนยังไม่ไปถือเป็นเรื่องแปลก จึงขอให้รอดูว่าเมื่อไปแล้ว จะมีรายงานอะไรกลับมาบ้าง ซึ่งจัดส่งถึงรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและประธานสภา 

พร้อมตั้งสังเกตว่าการเดินทางไปดูงานครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ตนแต่ยังมีหน่วยงานอื่นที่ต้องถูกจับตามอง ทั้งองค์กรอิสระ ศาล กรรมาธิการ รวมถึงรัฐบาลก็ไปดูงานต่างประเทศมากมายมหาศาล ก็ถือเป็นโอกาสดีที่สังคม จะได้ตั้งคำถามในเรื่องนี้

 

ทั้งนี้ของยืนยันว่าทั้งหมดทำด้วยความโปร่งใสและพร้อมรับการตรวจสอบ  ทั้งนี้การ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้จะไม่ทำให้การเดินทางไปดูงานต่างประเทศในครั้งนี้ต้องสะดุดเพราะทุกอย่างทำตามขั้นตอน และจะมีการแถลง ชี้แจงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในวันพุธที่ 20 กันยายนนี้ อีกครั้ง

ประมาณการค่าใช้จ่ายเดินทางไปสิงคโปร์ของคณะ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา

ทั้งนี้นายปดิพัทธ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเดินทางไปการจะเดินทางไปสิงคโปร์ในครั้งนี้ เพื่อดูงาน เรื่อง Smart and Open pariment  การจัดการฝุ่น และ ชีวิตคนไทยในสิงคโปร์ ซึ่งทุกคนที่ไป ล้วนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนรัฐสภาโปร่งใส มีประสิทธิภาพสูงทุกคน สส. ที่ร่วมคณะไปก็แสดงความจำนง ว่าสนใจในงานกิจการสภา โดยตนได้มีคำเชิญไปถึงพักร่วมรัฐบาลแล้วด้วย ทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มุ่งเอาไปเฉพาะคนของฝ่ายค้าน แต่เป็นงานของนิติบัญญัติ


ขณะที่ นายแทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​ รักษา​การ​ประธาน​คณะกรรมการ​ส่งเสริม​สิทธิ​มนุษยชน​และ​ความ​เสมอภาค​ระหว่าง​เพศ​พรรค​ประชา​ธ​ิ​ปัตย์​กล่าว​ถึง​กรณี​นาย​ปดิพัทธ์​ สันติ​ภาดา​ รอง​ประ​ธา​น สภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ได้เดินทางไปดูงานที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี ส.ส.พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยและคณะรวม 12 คนติดตามไปด้วย ในช่วงระหว่างวันที่ 21-25 ก.ย.66 โดยศึกษาดูงานด้านระบบสารสนเทศการประชุมของรัฐสภาแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์, การบริหารจัดการแรงงานของคนไทยในสาธารณรัฐสิงค์โปร์ และการจัดการทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน 

โดยนายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้อนุมัติการเดินทางเมื่อวันที่ 12 ก.ย.66 และเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อนุมัติงบประมาณเป็นเงินจำนวน 1,379,250 บาท  เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางการและระบุงบประมาณอื่นที่เบิกจ่ายสำหรับ สส. 1 คนๆ อยู่ที่คนละ 114,650 บาท

แบ่งเป็น ค่าบัตรโดยสารเครื่องบินไป-กลับ 51,250 บาท, ค่าเบี้ยเลี้ยง 4 วันๆละ 3,100 บาท รวม 12,400 บาท, ค่าที่พัก (พักเดี่ยว) 4 คืนๆ ละ 12,500 บาท รวม 50,000 บาท และค่าจัดทำหนังสือเดินทาง 1,000 บาท

นายแทนคุณ​ จิตต์​อิสระ​

ส่วนของ นายปดิพัทธ์ มียอดค่า​ใช้​จ่ายรวม 494,650 บาท โดยได้สิทธิ์ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าที่พัก เท่ากับ สส.คนอื่น แต่มียอดเพิ่มเติมในส่วนของค่ารับรอง 200,000 บาท ค่ายานพหนะ 150,000 บาท และค่าของที่ระลึก 30,000 บาท อยู่ในรายการของนายปดิพัทธ์

สังคมตั้งคำถามว่าสภาจำเป็นไหมที่จะต้องไปดูงานในช่วงเวลานี้ เป็น​ภารกิจที่คุ้มค่​าภาษี​ประชาชน​หรือไม่โดย​ถือว่าเป็​นการผลาญงบประมาณแผ่นดินในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่จะสิ้นปีงบประมาณ​ (30 กันยายน​)  

โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็น​การ​ตั้งเรื่องอนุมัติอย่างเร่งรีบไม่ผ่านการพิจารณาของคณะอนุกรรมการแผนและงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร​อยากตั้งคำถามว่า"คนจนมีสิทธิ์​ไหมครับ"กับการที่ผู้แทนพาพรรคพวกตัวเอง"บินหรูอยู่​สบายด้วยภาษีจากน้ำตาประชาชน​"ที่ทำงานหนักหาเงินด้วยความทุกข์ยาก​แสนสาหัส โดยตนจะคอยติดตามผลลัพธ์​ของการไปดูงานเช่นเดียวกับ​การใช้งบประมาณ​ของรัฐบาล​ด้วย

 นอกจากนี้​พี่น้อง​ประชาชน​ตั้งข้อสังเกตไว้หรืออาจจะเพราะ​ต้องเตรียมลาออกเพื่อย้ายไปพรรคอื่นที่"เตี๊ยม"กันไว้ระหว่าง  2 พรรคคือให้ก้าวไกลใช้เทคนิคขับหมออ๋องไปอยู่พรรคเล็กพรรคหนึ่ง เพื่อสามารถดำรงตำแหน่ง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรได้และก้าวไกล​สามารถได้ตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านได้ เป็น​จริงหรือไม่ อาจเข้าข่ายฮั้วกันหรือไม่ต้องติดตามต่อ เชื่อว่างานนี่จบไม่สวยแน่นอน​