นายกฯเศรษฐา เตรียมเปิดตลาดใหม่ ยกระดับรายได้เกษตรกร

08 ก.ย. 2566 | 13:13 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.ย. 2566 | 13:58 น.

"เศรษฐา"ยันหารือ "เกษตร-พาณิชย์-ต่างประเทศ"ปูทางเปิดตลาดใหม่ ขอโควต้าส่งสินค้าเพิ่มจากทางจีนและตะวันออกกลาง หวังยกระดับรายได้เกษตรกร ตั้งเป้า 4 ปีที่เป็นรัฐบาลค่าเฉลี่ยของจีดีพีที่เติบโตปีละ 5%

วันที่ 8 ก.ย.2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น โดยกล่าวถึงแนวคิดในการเปิดตลาดการค้าใหม่ เพื่อช่วยยกระดับรายได้เกษตรกร ว่า

เรื่องนี้ตรงกับนโยบายรัฐบาลและเป็นเรื่องที่ได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้แทนการค้าที่เราวางแผนไว้ รวมไปถึง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็เป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการค้าโลก

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง

ดังนั้นจึงต้องมีการเปิดตลาดใหม่อย่างแน่นอน โดยจะมีการขอโควต้าการส่งสินค้าเพิ่มจากทางจีนและตะวันออกกลางเพิ่มแน่นอน  ส่วนการลดรายจ่ายทั้งเรื่องของปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมี เพิ่มความรู้ให้พี่น้องเกษตรกรในการเพิ่มผลผลิต เป็นการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ควบคู่ไปกับการพักหนี้เกษตรกร   

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในระยะ 9 ปีมานี้ มีการพักหนี้ไปแล้ว 13 ครั้ง แต่ไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งปัญหาใหญ่ หลังได้พูดคุยกับผู้ว่าการการธนาคารแห่งประเทศไทย คือเมื่อมีการพักหนี้ไป แล้วรายได้ไม่ได้สูงขึ้น หากพักหนี้แล้วรายได้สูงขึ้นก็เป็นการแก้ไขปัญหาระยะยาว ที่เราควรต้องทำกัน ดังนั้นครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรกเราจะเพิ่มรายได้สุทธิให้สูงขึ้น

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หน้าที่รัฐบาลคือต้องพยายามทำให้พี่น้องประชาชนมีรายได้ที่ดี สามารถกินอยู่ ลงทุนเพาะปลูกและแก้ไขปัญหาหนี้สินได้ แต่ปัจจุบันปัญหาหนี้สินเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งหลังจากประชุม ครม.นัดแรก เรื่องพักนี้เกษตรกรจะเป็นเรื่องด่วน รวมทั้งการลดรายจ่าย ลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน

นายกฯ เตรียมเปิดตลาดใหม่  ยกระดับรายได้เกษตรกร

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 11 พรรค อยากเห็นจีดีพี (การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ) มีการเติบโตที่มากกว่าในปัจจุบัน ในช่วง 4 ปีที่เป็นรัฐบาลเราอยากเห็นค่าเฉลี่ยของจีดีพีที่เติบโตปีละ 5% นี่คือเป้าหมาย 

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดกาฬสินธุ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์แล้ว น่าจะบรรเทาปัญหาได้ภายใน 3 วัน และพื้นที่เพาะปลูกก็ไม่น่าจะเสียหาย แต่ก็ยังมีฝนตกอยู่

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเก็บกักน้ำเพื่อใช้หลังจากจบฤดูฝนเอาไว้ใช้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เชื่อมโยงไปถึงแผนระยะยาว โครงการโขง ชี มูล เลย ที่จะต่อเข้ามาที่เขื่อนอุบลรัตน์ ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว ซึ่งได้ฝากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ติดตามเรื่องนี้เป็นพิเศษ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการช่วยบรรเทาปัญหาระยะยาวได้ดีที่สุด  
นายกฯ เตรียมเปิดตลาดใหม่  ยกระดับรายได้เกษตรกร
“เรื่องไม่ท่วม ไม่แล้งเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ที่หลายรัฐบาล รวมถึงรัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก หากทำสำเร็จ ทุกๆ บาทที่ลงทุนไป ทั้งในเรื่องของเขื่อน ฝายและการขุดลอก ทุกบาททุกสตางค์ที่ลงทุนไปจะมาสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี” 

ส่วนแนวโน้มในการดำเนินโครงการประกันราคาสินค้าเกษตร นายกรัฐมนตรี ตอบว่าได้บอกแล้วว่า ทั้งการประกัน จำนำและจ้างผลิต ไม่ได้อยู่ในนโยบายของรัฐบาลนี้ เพราะการบิดเบือนราคาตลาดโลก อาจไม่เหมาะสม

โดยเฉพาะเรื่องวินัยการเงินการคลัง แต่เราเน้นที่การเพิ่มรายได้สุทธิของพี่น้องประชาชน หากรายได้น้อยแต่ผลผลิตสูง รายจ่ายต่ำ เงินเข้ากระเป๋าสุทธิของพี่น้องประชาชนก็จะสูงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องไปจำนำหรือประกัน ที่บิดเบือนราคาตลาดโลก โดยเรามุ่งไปที่การเพิ่มรายได้สุทธิของพี่น้องเกษตรกรทั้งหมดทุกประเภท