เปิดใจ “นพ.พรหมินทร์” นั่งเลขาธิการนายกฯ หวนคืนทำเนียบรอบ 17 ปี

วันนี้ (6 กันยายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ โดยนอกจากการหารือเรื่องของการจัดทำคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาแล้ว ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งให้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นับเป็นการหวนคืนสู่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งในรอบ 17 ปี

นั่นเพราะก่อนหน้านี้ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช หรือ “หมอมิ้ง” เคยนั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร มาก่อนในห้วงปี 2544-2545 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรี รวมทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในเวลาต่อมา ก่อนจะถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในคดียุบพรรคการเมือง เมื่อปี 2549

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. เป็นครั้งแรก ว่า ขณะนี้ ครม.ได้แต่งตั้งให้เป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แล้ว ส่วนทีมเลขาธิการนายกฯ นั้น จะแต่งตั้งเท่าที่จำเป็น เพราะมีข้าราชการมาร่วมทำงาน ตามนโยบายนายกรัฐมนตรีว่ารัฐบาลนี้เป็น “รัฐบาลของประชาชน”

 

สำหรับการกลับเข้ามาหวนนั่งตำแหน่งนี้อีกครั้งหลังทิ้งยาวไปนาน นพ.พรหมินทร์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าในฐานะที่เคยทำหน้าที่มาแล้วมีความแปลกใหม่อะไรหรือไม่ในครั้งนี้ว่า 

“การมาครั้งนี้แม้เป็นประสบการณ์เดิม แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือภารกิจใหม่ บนความท้าทายใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่า ตอนนี้มีปัญหามากมาย และเราต้องทำงานให้เร็วในสถานการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้น” 

ส่วนความกังวลตอนนี้ ยอมรับจริง ๆ ว่า จะทำงานให้ประชาชนได้ไม่เต็มที่ แต่ว่าด้วยความมั่งมั่นตั้งใจของรัฐบาลชุดนี้ก็น่าจะทำได้เต็มทีสมความปรารถนาของประชาชน

ช่วงระหว่างนี้ผู้สื่อข่าวถามความในใจย้อนไปถึงวันเวลาในอดีตก่อนจะหวนมานั่งเก้าอี้นายกน้อยอีกครั้ง โดยก่อนตอบคำถาม “หมอมิ้ง” เงยหน้าทวนความจำชั่วครู่ก่อนหันมาตอบว่า “17 ปี” แล้วขยายความต่อพร้อมรอยยิ้มว่า “ความจริงอายุมากแล้ว ไม่ควรจะต้องมาทำงาน”

ก่อนจะตั้งใจเล่าว่า “แต่ถ้าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตัวเองก็เคยมีตั้งปณิธานเอาไว้ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองก็พร้อมที่จะทำ”

 

ขณะที่เหตุผลและความจำเป็นของการเข้ามาเยียบทำเนียบรอบนี้นั้น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ป้ายแดง ยอมรับว่า ต้องเชื่อมเอาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย และที่เชื่อมกับความสัมพันธ์กับนายกฯ คนใหม่ สุดท้ายคือ การมีกลไกหน่วยงานต่างๆ ที่จะช่วยนายกฯ ได้ และนายกฯ ก็อยากให้เข้ามาช่วย ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ได้ทำงานให้กับประเทศชาติ 

ส่วนคำถามที่ว่า นายกฯ คนนี้กับที่ผ่านมามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง หมอมิ้ง มีคำตอบว่า เราคิดถึงประชาชนก่อน ขณะที่วิธีคิดส่วนตัวกับนายกฯ นั้น ก็ใกล้เคียงกัน นั่นคือ คิดในเชิงที่เข้าใจเรื่องของภาคเอกชน ภาคธุรกิจ เข้าใจในเรื่องของภาครัฐ และเข้าใจภาคประชาชน การผนวกอย่างนี้ เชื่อว่า จะช่วยแก้ปัญหาของประเทศด้วยกันได้

เช่นเดียวกับบุคลิกของนายกฯ นั้น ยอมรับว่า ทำงานเร็ว และทำงานเยอะ ก่อนจะกล่าวติดตลกว่า “ผมเองก็กลัวว่าจะทำไม่ทันท่านนายกฯ”

 

 

การเริ่มต้นทำงานด้านนโยบาย

นพ.พรหมินทร์ ระบุว่า ในการประชุม ครม.นัดพิเศษ ได้มีการหารือถึงร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา และเห็นชอบนโยบายร่วมกันของพรรคต่าง ๆ พร้อมทั้งหารือกับส่วนราชการ ทั้ง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักงบประมาณ ทั้งหมดพร้อมที่จะนำเสนอในการประชุมรัฐสภา

“ขณะนี้นายกฯ พร้อมที่จะแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยตอนนี้เอกสารที่พิมพ์ออกมาแล้วเสนอไปให้ทางสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ก่อน 3 วัน ซึ่งทุกอย่างได้พร้อมหมดแล้ว” นพ.พรหมินทร์ ยอมรับ

ทั้งนี้ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐบาลผ่านการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จสิ้น รัฐบาลจะสามารถเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินต่อไป

 

 

ส่วนกรณีการตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายบางอย่างไม่ตรงกับนโยบายที่หาเสียงไว้ ประเด็นนี้ยอมรับว่า นโยบายของรัฐบาล จะเป็นกรอบใหญ่ เขียนไว้เป็นหลักการใหญ่และพูดถึงเป้าหมาย แต่ไม่ได้ลงเรื่องรายละเอียด เพราะจะถูกบรรจุไว้เป็นเรื่องของการปฏิบัติ แต่ยืนยันว่า จะครอบคลุมทุกประเด็นอย่างแน่นอน

ด้านนโยบายแจก เงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต หนึ่งในนโยบายหาเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย และถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายใหญ่ของรัฐบาล “เศรษฐา 1” นั้น เลขาธิการนายกฯ ชี้แจงว่า ขอให้ดูในรายละเอียดวันที่ออกมาพร้อมกัน 

ขณะที่แหล่งเงินสำหรับนโยบายนี้ ได้เตรียมไว้หมดแล้ว แต่ขอหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน และจะทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน 

ส่วนการแบ่งงานด้านต่าง ๆ นั้น ตอนนี้ยังไม่มีการแบ่งอย่างเป็นทางการ แต่เรื่องหนึ่งที่สำคัญคือ การเสนอเรื่องเข้ามายังรัฐบาลนั้น อาจมีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองขึ้นมาพิจารณา ถือเป็นการทำงานแบบมียุทธศาสตร์ และมีประสิทธิภาพจริง ๆ

 

 

ประวัติ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช โดยสรุป 

นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เป็นที่รู้จักกันในชื่อเล่นว่า “หมอมิ้ง” เกิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นนายแพทย์ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสองห้อง จังหวัดของแก่น เมื่อช่วงปี 2528

ก่อนจะเข้ามาในวงการธุรกิจ โดยเป็นผู้บริหารหลายแห่ง และมีความใกล้ชิดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และได้เข้าร่วมทำงานกับกลุ่มบริษัทของตระกูลชินวัตร

ส่วนตำแหน่งสำคัญทางด้านการเมือง ในช่วงปี 2548 - 2549 นั่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลทักษิณ ก่อนเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในปี 2545 และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในช่วงปี 2546