“หมอตุลย์” จี้ราชทัณฑ์ตรวจละเอียดโรคทักษิณ เลี่ยงครหาสองมาตรฐาน

หลังจากที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมกลายเป็น นช.(นักโทษชาย) ใน เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ได้เพียงคืนเดียววานนี้ (22 ส.ค.) ก็ได้ก่อให้เกิดกระแสเรียกร้องขอความโปร่งใสและการปฏิบัติจาก กรมราชทัณฑ์ ที่ไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ เลือกปฏิบัติ หรือดูเป็นการให้สิทธิพิเศษแก่ นช.ทักษิณ เหนือผู้ต้องขังคนอื่นๆ

ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายแพทย์ นักวิชาการ และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ทำหนังสือเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ทันทีวานนี้ (22 ส.ค.) หลังจากที่มีข่าวนายทักษิณอาจต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลแทนการถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเพราะสูงวัยแล้วและมีปัญหาด้านสุขภาพหลายโรคด้วยกัน โดยเบื้องต้นพบว่า นายทักษิณกำลังรักษาอยู่ 4 โรค คือ โรคหัวใจขาดเลือด ปอดอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง และกระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท

เนื้อหาจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ของนายแพทย์ตุลย์ระบุว่า ขอให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญตรวจอาการนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร โดยตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า กรมราชทัณฑ์แถลงข่าวว่านักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 10 ปี มีโรคต่าง ๆ รุมเร้า เช่น โรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น ต้องรับการรักษาที่โรงพยาบาลภายนอกนั้น

เพื่อเป็นการรักษามาตรฐานและจริยธรรมทางการแพทย์ จึงขอเสนอให้ทางกรมราชทัณฑ์ เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์มาตรวจร่างกายนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีความจำเป็นต้องรับการรักษาโดยโรงพยาบาลภายนอกหรือไม่ และจำเป็นต้อง admit หรือไม่ เพราะจากที่ปรากฏทางสื่อโซเซียลของตัวนักโทษเอง พบว่าสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะมีหลายโรคก็ตาม

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาโดยสังคมทั่วไป และเพื่อป้องกันมิให้มีการฟ้องร้องแพทย์กรมราชทัณฑ์ได้ในภายหลังในข้อหาช่วยเหลือผู้ต้องหาให้ได้รับความสะดวกสบายผิดจากข้อเท็จจริงทางการแพทย์

และในกระแสเรียกร้องทิศทางเดียวกัน วันนี้ (23 ส.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน ได้เปิดเผยว่า สังคมมีข้อสงสัยและคำถามมากมายเกี่ยวกับการปฏิบัติต่อนช.ทักษิณว่าเป็นการเอื้อประโยชน์และเลือกปฏิบัติสองมาตรฐานหรือไม่ จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้มีการสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันพฤหัสบดีที่ 24 ส.ค.นี้ ในเวลา 10.00 น. ณ สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี

“คุณคิดว่าคนไทยกินแกลบ กินหญ้าหรือ? หรือเตี๊ยมกันไว้เพื่อใช้เป็นข้ออ้างเพื่อไม่ให้ดูน่าเกลียดในการขอโอนไปรักษาตัวในห้องพิเศษได้นอนเบาะนุ่มๆ ในห้องแอร์เย็นฉ่ำของโรงพยาบาลตำรวจกันหรือไม่ครับ ?

ระเบียบกรมราชทัณฑ์ ฉบับล่าสุด 23 ส.ค. 65 ระบุว่า นช.ชายทุกคนต้องไว้ผมสั้น ด้านหน้าและกลางศีรษะยาวไม่เกิน 5 ซม. ชายผมรอบศีรษะเกรียนชิดผิวหนัง ข้ออ้างว่า โทนี่เป็นผู้สูงวัยอายุมากแล้ว-เป็นผู้หลักผู้ใหญ่นั้น เขียนเป็นข้อยกเว้นเอาไว้ข้อไหนครับ ? - ปกติ นช.ทุกคนเมื่อศาลอ่านคำพิพากษาและเซ็นชื่อยอมรับโทษแล้ว จะต้องนำ นช.ขึ้นรถราชทัณฑ์เดินทางไปเรือนจำทันที แต่โทนี่กลับนั่งรถเบาะนิ่มแอร์เย็นฉ่ำ มีรถตำรวจนำ มีรถยนต์ประกบตามเป็นขบวน ยังกับขบวนต้อนรับอาคันตุกะจากต่างประเทศไปเยี่ยมชมราชทัณฑ์ ตั้งแถวตะเบะ ไม่กระดากใจกันบ้างหรือ?

ห้วง 10 วันแรกต้องกักโรคให้อยู่ห้องขังเดี่ยวพอเข้าใจได้ แต่หลังจากนั้น จะยังคงมีอภิสิทธิ์อยู่ห้องเดี่ยว กินหรูอยู่สบาย ที่ผู้คนเขานินทาตลอดไปหรือไม่ ? ทั้งหมดนี้ นักโทษสูงวัยคนอื่นๆ ราชการไทยจะให้อภิสิทธิ์เยี่ยงนี้เหมือนกันทุกคนหรือไม่? หรือ “คุกมีไว้ขังเฉพาะคน…?” นายศรีสุวรรณโพสต์เป็นปุจฉาไว้หน้าเพจศรีสุวรรณ จรรยา เช้าวันนี้

สำหรับอัปเดตสุขภาพล่าสุดของนช.ทักษิณ หลังมีอาการความดันกำเริบกระทันหันเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เวลาประมาณหลังเที่ยงคืน ทำให้ต้องย้ายตัวมารักษาด่วนด้วยเฮลิคอปเตอร์จากแดน 7 เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาที่โรงพยาบาลตำรวจ อาคารมหาภูมิพลราชานสรณ์ 88 พรรษา ชั้น 14 ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นหอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง โดยชั้นดังกล่าวมีอยู่แค่ 2 ปีก ปีกละ 1 ห้อง สำหรับนายทักษิณอยู่ที่ห้องรอยัล สูท หมายเลข 1401 มีรายงานว่า เบื้องต้นทางแพทย์ศัลยกรรมระบบประสาท ได้ให้ยาละลายลิ่มเลือด ยาความดัน ยาคลายเครียด และขณะนี้ นายทักษิณอยู่ระหว่างการพักผ่อนโดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด