“แสนสิริ”โต้“ชูวิทย์”ยันซื้อที่ดินทองหล่อถูกต้องตามก.ม. เล็งฟ้องหมิ่นฯ

15 ส.ค. 2566 | 19:23 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2566 | 19:33 น.

“แสนสิริ”ออกแถลงการณ์โต้ “ชูวิทย์” ยันซื้อที่ดินย่านทองหล่อ บริษัทย่อยดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใสตรวจสอบได้ เล็งดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท

วันนี้(15 ส.ค. 66) ภายหลัง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองออกมาแฉเพื่อชาติตอนที่ 2 โดยกล่าวหา นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย สมัยเป็นผู้บริหารแสนสิริ มีการซื้อที่ดิน และมีเงินทอนกว่า 400 ล้านบาทนั้น  

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ส่งคำแถลงการณ์ถึงสื่อมวลชน เรื่อง “แสนสิริ ยืนยันการซื้อที่ดินทองหล่อถูกต้อง” เนื้อหาระบุว่า 

ตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นำเสนอข้อมูลพาดพิง บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เกี่ยวกับวิธีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริ ว่ามีการดำเนินการโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้สาธารณชนเข้าใจคลาดเคลื่อน และทำให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียง บริษัทฯ ขอชี้แจงว่า

1.การสรรหาและจัดซื้อที่ดินของแสนสิริถูกต้องตามกฏหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน บริษัทฯ มีแนวทางการพิจารณาการจัดซื้อที่ดินอย่างชัดเจน ผ่านการประเมินความเสี่ยงในหลากหลายมิติ  

2.ก่อนการอนุมัติจัดซื้อที่ดินของแสนสิริ แต่ละแปลงจะมีทีมสรรหาที่ดินที่มีความเชี่ยวชาญ ทำการตรวจสอบข้อมูลขั้นต้นและข้อมูลรายละเอียดของที่ดินที่ได้รับการเสนอขาย โดยมีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอย่างละเอียด ทั้งในเชิงมหภาค การขยายตัวของเมือง ประชากร และโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ 

รวมถึงพิจารณาราคาตามกลไกของตลาด ทำเลที่ตั้งของที่ดิน การสำรวจตลาดคู่แข่ง เงินลงทุน กำไรที่คาดว่าจะได้รับอย่างละเอียด ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด 

สำหรับกรณีที่ดินทองหล่อ (KHUN by YOO) 

1.แสนสิริ และบริษัทย่อยของแสนสิริ กรรมการและผู้บริหารของบริษัทดังกล่าว ไม่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ใดๆ กับบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นผู้ขายที่ดินแปลงดังกล่าว

2.แสนสิริ ซื้อที่ดินทองหล่อ ในปี 2559 ในราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา จาก บริษัทเอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินตามโฉนดตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสมเทียบเคียงกับราคาตลาด  

3.ตามที่มีการกล่าวอ้างว่า แสนสิริซื้อที่ดินราคาแพง ควรจะซื้อแค่ 565 ล้านบาท หรือเท่ากับตารางวาละ 650,000 บาทเท่านั้น เป็นการพูดที่ไม่สมเหตุผล เพราะไม่มีเจ้าของที่ดินรายใดที่มีที่ดินอยู่ในซอยทองหล่อจะขายที่ดินในราคาดังกล่าว 

4.อีกทั้งบริษัท เอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้มาตั้งแต่ปี 2551 ซึ่งเป็นธรรมดาที่เจ้าของที่ดินจะต้องขายที่ดินที่มีกำไร คงเป็นไปไม่ได้ที่จะยอมขายในราคาตารางวาละ 650,000 บาท ที่ต่ำกว่าราคาตลาดอย่างมาก 

5.บริษัท อาณาวรรธน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแสนสิริไม่เคยให้กู้ยืมเงินแก่ บริษัทเอ็น แอนด์ เอ็น แอสเซ็ท จำกัด โดยมีหลักฐานที่อยู่ในสัญญาจำนองฉบับกรมที่ดิน (เอกสารแนบ) ว่าการจำนองดังกล่าวเป็นการจำนองเพื่อประกันการปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินของผู้ขาย เพื่อให้ผู้ขายปฏิบัติตามสัญญาให้ครบถ้วน 

รวมถึงการดำเนินการเคลียร์ผู้เช่า ในที่ดินเพื่อโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยปลอดจากภาระผูกพันใดๆ และเมื่อผู้ขายได้ดำเนินการครบถ้วนเสร็จสิ้นแล้ว แสนสิริ จึงได้ดำเนินการรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงดังกล่าวและจัดทำเป็นโครงการอาคารชุดที่มีการขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าแล้ว 

ทั้งนี้ แสนสิริ อยู่ในระหว่างพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายต่อผู้กระทำการบิดเบือนข้อมูล และทำให้ชื่อเสียงแสนสิริ ได้รับความเสียหาย แสนสิริ ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โปร่งใส และตรวจสอบได้ จึงขอชี้แจงมา ณ ที่นี้