"สนธิ"ลั่น"ทักษิณ"กลับไทยได้หากยอมติดคุก-จงรักภักดี ยันไม่เคยคุยกัน

29 ก.ค. 2566 | 08:21 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2566 | 08:39 น.

"สนธิ"ลั่น"ทักษิณ"กลับไทยได้หากยอมติดคุก-จงรักภักดี ยันไม่เคยคุยกัน ชี้ครบเงื่อนไขที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อสู้มาตลอด จึงไม่มีประเด็นที่ต้องไปทะเลาะอีก

นายสนธิ ลิ้มทองกุล เปิดเผยผ่านไลฟ์สดรายการ “SONDHI TALK” ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" โดยมีช่วงหนึ่งกล่าวพูดถึงกรณีที่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร โพสต์ว่า นายทักษิณ ชินวัตร บิดา จะกลับไทย ในวันที่ 10 ส.ค. ที่สนามบินดอนเมือง ว่า ทั้งหมดนี้ตนไม่รู้เรื่อง รู้แต่เพียงว่านายทักษิณจะกลับมาหลายครั้งแล้ว มีคนถามตนว่ารู้สึกยังไง 

"ท่านผู้ชมที่เป็นพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็รู้อยู่แล้วว่าที่เราสู้กับทักษิณในอดีตนั้น เราสู้อยู่สองประเด็น ประเด็นแรกคือการคอร์รัปชัน โดยที่คอร์รัปชันเชิงนโยบายหลายเรื่อง และทักษิณได้ถูกพิพากษาตัดสินจำคุกโดยศาล ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วทักษิณก็หนีคดีไป"

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่พวกเราสู้ ก็คือเรื่องที่ทักษิณนั้นในยุคแรกของการตั้งพรรคไทยรักไทยนั้น ถูกแวดล้อมและมีพฤติกรรมน่าสงสัยว่าจะมีส่วนร่วมในเรื่องของการไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
 

จนกระทั่งล่าสุดนี้พรรคเพื่อไทย โดยที่จริงแล้วอยู่ภายใต้การดูแลและปกครองของทักษิณ ชินวัตร ก็มีนโยบายชัดเจนว่าจะจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ต้องการเข้าไปแก้มาตรา 112 อย่างเด็ดขาด อันนี้ตนถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ถึงแม้ว่าคนอาจจะถามตนว่าเชื่อได้หรือไง

อย่างไรก็ดี ในความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ในที่สุดแล้วทักษิณอยู่ต่างประเทศถึง 17 ปี ร่อนเร่พเนจร ถึงจะมีเงินมากมายแค่ไหนก็ไม่มีความสุขเหมือนกับอยู่ใกล้ลูกใกล้หลาน

เรื่องที่สอง นายทักษิณบอกแล้วว่าจะกลับมายอมติดคุก แสดงว่าทักษิณยินดีที่จะกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และก็รับผิดในการที่ตัวเองถูกพิพากษาจำคุก โดยต้องวางใจเป็นกลาง หากสองเรื่องดังกล่าวนี้เกิดขึ้น คือทักษิณยอมรับว่าจะกลับมาติดคุก แสดงว่ายอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย และประกาศชัดเจนโดยผ่านพรรคเพื่อไทย และทักษิณพูดชัดเจนว่ายังคงจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจตนไม่รู้ 

แต่ทักษิณยอมรับแล้วในทางสาธารณะ ต้องถือว่านี่คือหลักการที่ชัดเจน ตนถือว่าทักษิณถ้ากลับมาติดคุกจริง ยอมรับความยุติธรรมของประเทศไทย ที่สำคัญยอมรับคำพิพากษาของศาลที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธย ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว

ขณะที่เรื่องที่ทักษิณแสดงเจตนารมณ์จุดยืนที่ชัดเจนโดยผ่านพรรคเพื่อไทยว่า ยังคงจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะไม่มีทางแก้มาตรา 112 หากครบสองเรื่องนี้ ซึ่งเราสู้มาตลอด ก็ไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องไปทะเลาะกับสายทักษิณอีกต่อไป

ช่วงหลังมีการแชร์กันในไลน์ และสื่อมวลชนบางคนโพสต์โน่นโพสต์นี่ น่ารำคาญมาก ร่ำลือว่าทักษิณ ชินวัตร ได้คุยกับตนเคลียร์กับตนเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเดินทางกลับเมืองไทย

"ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยคุยกัน เท่าที่ตนทราบข้อมูลก็คือว่า สนธิที่เขาพูดถึงไม่ใช่สนธิ ลิ้มทองกุล แต่เป็นพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ต้องทำความเข้าใจกันหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ปล่อยข่าว"