“แก้วสรร” ถาม-ตอบ ก้าวไกลสืบสาน คณะราษฎร?

30 มิ.ย. 2566 | 18:34 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มิ.ย. 2566 | 22:50 น.

"แก้วสรร" เผยแพร่บทความ ก้าวไกล สืบสาน คณะราษฎร? ฟาดช่อ ลวงโลก ระบุ มองไม่เห็น "พรรคส้ม" สืบสาน คณะราษฏร ตรงไหน เพี้ยนออกนอกเส้นทางไปมาก

30 มิ.ย.2566 - อาจารย์แก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง “ก้าวไกล” : สืบสาน “คณะราษฎร”? โดยมีเนื้อหาดังนี้                                                       
 
ถาม ได้ดูคลิปคุณช่อ ก้าวไกล ทำเป็นโทรศัพท์คุยกับอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ ว่าเราใกล้ชัยชนะแล้ว ครบร้อยปีคณะราษฎรนี่ ได้ฉลองกันแน่ แถมยังตีซี้ เรียก “พี่ปรีดี” อย่างโน้น อย่างนี้...ทั้งหมดนี่ ดูแล้วชาวธรรมศาสตร์อย่างอาจารย์รู้สึกอย่างไร ?
 
ตอบ ไม่ชอบใจครับ...ถึงขนาดเรียกพี่เรียกน้องกับคนรุ่นคุณทวดได้อย่างนี้ โดยวัยก็ควรจะตายไปนานแล้ว มามีชีวิตตอแหลออก “คลิป..ลวงโลก” อยู่อย่างนี้ได้อย่างไร ?
 
ถาม มันเป็น “คลิป..ลวงโลก” อย่างไร ?
 
ตอบ บอกตรงๆ ผมยังไม่เห็นเลยนะครับว่า คนฝูงสีส้มนี่.. สืบสานจากคณะราษฎรที่ตรงไหน คณะราษฎรเปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้พระมหากษัตริย์เป็นแค่ประมุข ส่วนอำนาจรัฐบาลเขาก็ให้มาจากเลือกตั้ง เท่านี้ก็จบงานตามยุคสมัยของคณะราษฎรเขาแล้ว พวกคุณสีส้ม จะเลิก ๑๑๒ คุณก็ยืนขึ้นมาเองเลย มาอ้างคณะราษฎรทำไม   
 

ถาม ถ้าเช่นนั้น...จริงๆแล้ว อะไรคือเหตุผลเบื้องหลังของการอ้างคณะราษฎร 
 
ตอบ เป็นความหน้าด้านหลอกลวงทางจิตวิทยาการเมือง ที่เมื่อพวกคุณจะหากินจากความหงุดหงิดทางการเมืองในปัจจุบัน ในเบื้องต้นคุณก็ต้องเอาสถาบันกษัตริย์เป็นจำเลยของความงี่เง่าทั้งปวงในสังคมไทย ที่ต้องล้มล้างด้วยพลังมวลชนแห่งความเกลียดชัง
 
ซึ่งตรงนี้ก็ต้องหาสายธารแห่งประวัติศาสตร์มาเชื่อมโยง ให้ฮึกเหิมเห็นเป็นกงล้อแห่งสัจจะ ที่คนรุ่นนี้จะต้องสืบต่อเพื่ออนาคตของลูกหลาน เป่าหูอย่างนี้ได้เมื่อไหร่ ความศักดิ์สิทธิ์ของภารกิจก็จะเปล่งเป็นฉัพพรรณรังสีออกมาในที่สุด 
 
ถาม คณะราษฎร จึงตกเป็นต้นธารแห่งประวัติศาสตร์ ที่เขาต้องอุปโลกน์ขึ้น
 
ตอบ เป็นเช่นนั้นครับ ทั้งคณะราษฎร และธรรมศาสตร์คือ ปัจจัยปรุงแต่งที่เขาต้องใช้สร้างสายธารปฏิวัตินี้ คลิป "พี่ปรีดีคะ พี่ปรีดีขา" ที่ตอแหลออกมา คือการแสดงตามบทนี้

ถาม อาจารย์ว่า ถ้าคณะราษฎรยังมีชีวิตอยู่ เขาจะยอมรับให้ก้าวไกลสืบสานเป็นสายธารปฏิวัติต่อจากเขาหรือไม่
 
ตอบ ผมว่าคณะราษฎรหยุดอยู่แค่เปลี่ยนแปลงการปกครอง ไม่เลยมาถึงการปฏิเสธและเปลี่ยนแปลงสังคม พวกเขายังไม่แปลกแยกถึงขั้น ชังชาติ เห็นสถาบันกษัตริย์ และวัฒนธรรม เป็นเรื่องล้าหลังงี่เง่าต้องขว้างทิ้ง เขาจึงยังยอมรับว่าสถาบันกษัตริย์เป็นองค์คุณของความเป็นชาติที่ต้องรักษาไว้ และเรียกการเปลี่ยนแปลงที่ทำไปว่า เป็นการ “อภิวัฒน์” คือ ไม่ได้ขว้างทิ้ง แต่ทำให้ดีขึ้น
 
ถาม “ก้าวไกล” ถึงขั้นขว้างทิ้งเลยทีเดียวหรือ
 
ตอบ ขยะก็คือขยะ ขยะต้องขว้างทิ้ง จะหวังทำให้ดีขึ้นไม่ได้ ชาติ และ วัฒนธรรม ที่มีอยู่เป็นอยู่ในสังคมไทยวันนี้ คือพันธนาการอันล้าหลัง เมืองไทยทุกวันนี้ “ก้าวไกล”เขาอยู่ไม่ได้ เขาว่ามันขาดเสรีภาพ จนอึดอัดเหมือนขาดออกซิเจน เลยทีเดียว
 
ถาม คณะราษฎร มี “ชาติ” ไหม
 
ตอบ มีแน่นอน อาจารย์ปรีดี พนมยงค์ นี่แหละ ที่เตือนซ้ายไทยว่า “ชาติ”ยังมีอยู่ อย่าไปหลงเชื่อใน “โลกสากล” ที่จีนและโซเวียตชูธงขึ้นมา อธิปไตยทางการศาลและเศรษฐกิจ ก็เป็นงานสำคัญที่ท่านทุ่มเทให้มาตลอดชีวิต เลยไปถึงขั้นเป็นหัวหน้าเสรีไทยเสี่ยงเป็นตาย ท่านก็ยอม 
 
ว่าอันที่จริงแล้ว งานสร้างชาตินี้ ทั้งก่อนและหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง บรรพบุรุษของเราท่านก็สืบสานกันมาตลอด มีแต่ “ก้าวไกล” ที่เพี้ยนออกมานอกเส้นทางมาก
 
ถาม ดูจากอะไร
 
ตอบ เขายอมให้พวกฝรั่งใช้ “ประชาธิปไตย” เป็นบัตรเสือกเข้ามา แทรกแซงบ้านเมืองเราโดยเต็มใจไม่รู้สึกอะไรเลยได้อย่างไร ไอ้กันยุให้แทรกแซงพม่า ก็จะเอากับเขาด้วย ถ้าปืนใหญ่ลงแม่สอด ใครจะรับผิดชอบ  
 
พอถึงวันแรงงาน แกนนำพรรคส้ม ก็ทะลึ่งเอาป้ายค้าน ๑๑๒ ยัดใสมือขบวนแรงงานพม่าด้วย ทำกันถึงขนาดนี้ ใจคอมันจะเป็นสากลกันจนไม่ต้องมี “ชาติ” เลยใช่มั้ย
 
ถาม สรุปแล้ว เมืองไทยวันนี้ดีเลิศประเสิรฐศรี จนไม่ต้องปฏิรูปอะไรกันเลย เช่นนั้นหรือ
 
ตอบ อย่ามาถามแขวะผมอย่างนั้น บ้านเมืองเราต้องการการปฏิรูปที่แท้จริงมาตลอด แต่ยี่สิบปีมานี้เรากลับเจอแต่พวกฉวยโอกาส    
 
เริ่มจาก ฉวยโอกาสใน รัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ ทุ่มเทลงทุนทางการเมืองด้วยเงินหลายพันล้าน ตั้งสาขาพรรคทั่วประเทศราวกับ 7-11 วางขายสินค้าประชานิยมล้วนๆ
 
ครั้นเมื่อระเบิดเป็นการประท้วงใหญ่ ก็มีรัฐประหารแล้วฉวยโอกาสเป็นรัฐบาลอยู่ไปวันๆ กว่า ๘ ปี แล้วยังตั้งพรรคจะอยู่ต่อไป   จนเข้าทางให้อีกกลุ่มฉวยโอกาสเอาความเกลียดชังเบื่อหน่าย มาเป็นฐานคะแนนจนชนะเลือกตั้งอีก    แต่ก็ไปไม่ได้อีก 
 
ถาม อาจารย์ว่า ก้าวไกล ไม่ได้เป็นรัฐบาลแน่หรือ
 
ตอบ ก็ไปแบ่งฝักฝ่ายกันจนเจรจาอะไรกับใครไม่ได้อย่างนี้ แล้วจะไปได้ยังไง เป็นพรรคอันดับ ๑ แต่คุยกับใครไม่ได้ แล้วมาลงเลือกตั้งในระบบรัฐสภาทำไม รอลงเลือกตั้งระบบประธานาธิบดีดีกว่า
 
ถาม ก็คงต้องลงถนนกันอีก
 
ตอบ ถนัดสร้างมวลชน แล้วยอมตามใจมวลชนไปตลอดอย่างนี้ จะไปไหนได้ไกล
 
อย่าโทรไปรบกวนอาจารย์ปรีดี อีกเลย ไปหาท่านด้วยตนเองเลยจะดีกว่า