กกต.ไม่หนักใจเลือกตั้งบัตร 2 ใบ แยกสีบัตรป้องกันสับสน

02 ก.พ. 2566 | 13:48 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ก.พ. 2566 | 14:37 น.

กกต.ไม่หนักใจเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ ประชาชนเคยเจอมาแล้ว วางแนวทางแยกสีบัตรป้องกันสับสน-ประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง พร้อมเป็นพี่เลี้ยงพรรคการเมือง ทำไพรมารี่โหวต


นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.  ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับรูปแบบการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ    ว่า ในเรื่องบัตร 2 ใบ   จะเปลี่ยนจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แต่จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นเรื่องใหม่สำหรับประชาชน   เพราะการเลือกตั้งก่อนปี 2562 ก็จะใช้รูปแบบบัตร 2 ใบอยู่แล้ว   ผู้มีสิทธิเลือกตั้งบางส่วนที่ไม่ใช่นิวโหวตเตอร์อาจจะเคยเจอ   และจะพบในการเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่แล้ว    

ส่วนแนวทางในครั้งนี้จะใช้บัตรคนละสีเพื่อให้เกิดความชัดเจน    รวมทั้งประชาสัมพันธ์เพื่อสื่อสารกับประชาชนทุกช่องทางเพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ให้ข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์และประชาชนเข้าใจง่าย ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งระบบใหม่ ใช้บัตร 2 ใบ    ด้วยองค์ประกอบเหล่านี้    จึงไม่มีอะไรน่าหนักใจในเรื่องดังกล่าว

นายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต.

เลขาธิการกกต. กล่าวถึง กกต.ประชุมร่วมกับพรรคการเมือง ในสัปดาห์หน้า  ว่า การประชุมพรรคการเมืองเป็นการเตรียมความพร้อมร่วมกัน   เพราะการเลือกตั้งจะออกมาดี   มันต้องดีทุกองค์ประกอบ ทั้ง กกต. และพรรคการเมือง ซึ่งสิ่งที่จะเน้นย้ำคือการทำตามกฎหมาย

 โดยเฉพาะการคิดค่าใช้จ่ายของแต่ละพรรค ว่าค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจะใช้เงินเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายแบบแบ่งเขตจะใช้เงินเท่าไหร่   และชี้แจงเรื่องการทำไพรมารีโหวตที่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง    ซึ่งมีทั้งความยากและความง่าย ความง่าย   คือกฎหมายแก้ไขให้มีสาขา  หรือตัวแทนเดียวในจังหวัดนั้น   ก็ส่งผู้สมัครได้ทั้งจังหวัด   

 "แต่ความยากก็คือ  มีขั้นตอนที่ต้องจัดประชุมให้ถูกต้องตามข้อบังคับพรรคและกฎหมายพรรคการเมือง    ซึ่งตรงนี้คงต้องมาซักซ้อมให้พรรคการเมืองได้ให้ความใส่ใจ  ซึ่งสำนักงาน กกต.พร้อมเป็นพี่เลี้ยงให้ทุกพรรคการเมือง  และทุกสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองตามจังหวัดต่างๆ   ที่จะมีสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดคอยดูแลเกี่ยวกับการสรรหาผู้สมัครแต่ละพรรคตามจังหวัดต่างๆ

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พรรคการเมืองได้เตรียมตัวมาอยู่ตลอด    เราทำงานร่วมกันมาโดยตลอดก็ไม่หนักใจอะไร"เลขาธิการกกต. กล่าว