"บิ๊กตู่"สั่งแก้ปัญหาปาล์มน้ำมัน หลังราคาร่วงเหลือ 4.80 บาทต่อกิโลกรัม

25 ม.ค. 2566 | 09:24 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ม.ค. 2566 | 10:30 น.

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯสั่งการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน ทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและในระยะยาว ชี้ผลผลิตปาล์มออกมาก ทำให้ราคาตกต่ำเหลือ 4.80 บาทต่อกิโลกรัม

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม รับทราบและสั่งการให้แก้ไขปัญหาสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมัน เพื่อดูแลช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม

โดยรัฐบาล ได้สำรวจปัญหาของพืชปาล์มน้ำมัน เนื่องจากตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 ถึงช่วงต้นปี 2566 มีผลผลิตปาล์มออกมามาก ทำให้มีผลผลิตปาล์มอยู่ในตลาดมาก ส่งผลให้ราคาปาล์มตกต่ำ

ประกอบกับมีการลักลอบนำปาล์มนอกโควต้าเข้ามาในประเทศไทย ทำให้ราคาปาล์มอยู่ที่ 4.80 บาทต่อกิโลกรัม (ราคา ณ วันที่ 20 ม.ค.66)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม

นายอนุชา กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน นายกรัฐมนตรีได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ให้ช่วยหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อ บรรเทาความเดือดร้อน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนชาวสวนปาล์ม โดยในการแก้ไขของรัฐบาล แบ่งเป็นสองรูปแบบ คือ

แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ามีแนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ ขอความร่วมมือสหกรณ์ในพื้นที่ ให้ช่วยรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรแทนไว้ก่อน และสกัดการลักลอบนำเข้าปาล์มนอกโควต้า ซึ่งจากแนวทางการทำงานของรัฐบาล ทำให้ราคาปาล์มมีการปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ 5 บาทต่อกิโลกรัม 

การแก้ปัญหาในระยะยาวนั้น รัฐบาลผลักดัน พ.ร.บ ปาล์มยั่งยืน ซึ่งจะทำให้ มีกองทุนสงเคราะห์การทำสวนปาล์ม การประกันราคาปาล์ม มีการจัดทำโครงสร้างกำกับราคา ที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงมีกฎเกณฑ์กำกับดูแล เรื่องปาล์มครบวงจร เพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีเป็นผู้สั่งการเพื่อให้เกิดการบูรณาการ กำกับดูแลการแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรสวนปาล์มที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เฟ้นหาแหล่งตลาดแห่งใหม่ เพื่อส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่ม และเพิ่มราคาผลผลิตปาล์ม

นอกจากนี้ยังช่วยผลักดันให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มเข้าสู่ระบบมาตรฐาน RSPO (Roundtable on Sustainable Palm Oil) เพื่อให้สามารถ แข่งขันกับต่างประเทศได้