รัฐพร้อมรับมือ "ซักฟอก" 15 ก.พ.เป็นต้นไป เตรียม 40 ประเด็นโต้ฝ่ายค้าน

12 ม.ค. 2566 | 11:54 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2566 | 20:24 น.

"ชินวรณ์" เผยรัฐบาลตอบรับชี้แจง สภาฯ ศึกซักฟอก 15ก.พ. เป็นต้นไป พร้อมเตรียม 40 ประเด็น ขณะที่ส.ส. ก้าวไกล เปิดปมร้อน "หลานประยุทธ์" เอี่ยว ‘ตู้ห่าว’

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงว่า  รัฐบาลแจ้งความพร้อมในการชี้แจงและตอบข้อซักถามในญัตติอภิปรายทั่วไป โดยไม่ลงมติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตั้งแต่ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป

 

 วันที่ 25 มกราคม นี้ นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ฐานะกรรมการประสานงาน ได้นัดประชุมวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน เพื่อกำหนดวันอภิปรายอย่างเป็นทางการ

 

" ส่วนตัวมองว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมอาจเป็นไปได้ ในวันที่ 15-16 ก.พ. หรือวันที่ 22-23 ก.พ. ช่วงเวลาที่เหมาะสม ควรอภิปราย 2 วัน ตามประเด็นญัตติฝ่ายค้านมี 20 ประเด็น แต่วิปรัฐบาลเห็นว่าควรเตรียมประเด็นชี้แจงสำคัญ 40 ประเด็น เพื่อให้ครอบคลุมทุกกระทรวง ผมเชื่อว่ารัฐบาลจะชี้แจงได้ทุกประเด็น"

 

ประธานวิปรัฐบาล แสดงความมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะตอบตรงไปตรงมา ซึ่งการอภิปรายดังกล่าวเหมือนเป็นการดีเบตครั้งสุดท้าย และในยุคที่ข่าวสารข้อมูลถึงประชาชนได้ง่าย จะมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

"รัฐบาลทำหนังสือมาถึงประธานสภาฯ แสดงว่ามีความพร้อมจะอภิปราย  ขอให้มั่นใจว่าไม่มีการยุบสภาเพื่อหนีอภิปรายแน่นอน ขอฝ่ายค้านทำกรบ้านให้เต็มที่แล้วกัน และขอให้อภิปรายเชิงสร้างสรรค์ไม่นำเรื่องส่วนตัวมาอภิปราย"

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ  ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์

ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า   รัฐบาลทำหนังสือมาถึงประธานสภาฯ แสดงว่ามีความพร้อมจะอภิปราย  ขอให้มั่นใจว่าไม่มีการยุบสภาเพื่อหนีอภิปรายแน่นอน ขอฝ่ายค้านทำกรบ้านให้เต็มที่แล้วกัน และขอให้อภิปรายเชิงสร้างสรรค์ไม่นำเรื่องส่วนตัวมาอภิปราย

 

เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม จะตอบตรงไปตรงมา ซึ่งการอภิปรายดังกล่าวเหมือนเป็นการดีเบตครั้งสุดท้าย และในยุคที่ข่าวสารข้อมูลถึงประชาชนได้ง่าย จะมีผลต่อการตัดสินใจในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมืองฯ ได้ร่วมประชุมหารือกันถึงกรณีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแล้วได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ก.พ.นี้ โดยจะมีความชัดเจนเรื่องตัวบุคคลที่จะถูกอภิปราย ซึ่งมีประเด็นหลักๆ เช่น การกู้เงิน, การทุจริตโครงการไทยเข้มแข็ง, กรณีปัญหาในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด พร้อมกันนี้จะคัดเลือกผู้อภิปรายจำนวนไม่เกิน 15 คน

 

 ส่วนรายชื่อผู้ที่จะเสนอแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุมฯ เห็นว่าควรเป็นคนในพรรค แต่ระบุยังไม่มีการเสนอชื่อผู้ที่เหมาะสมในขณะนี้ เพียงแต่มีการวิเคราะห์ถึงรายชื่อผู้เหมาะสมฯ ตามที่ปรากฎเป็นข่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ ( 12 ม.ค. ) นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล (ก.ก.)  อภิปรายถึงกรณีการจับกุมนายตู้ ห่าว ที่พบเกี่ยวพันกับการใช้รถบัสทำบริษัททัวร์เถื่อน ปรากฏว่าบริษัทนั้นเป็นของคนพิษณุโลก หรือเป็นของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นบริษัท ค. ที่อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

 

 ในปี 2558 บริษัทนี้มีทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาท แต่ตอนนี้มีมูลค่ากว่าพันล้านบาท เรามีอายุน้อยร้อยล้าน แต่อันนี้พันล้านแล้ว เพราะรับงานรัฐล้วนๆ เมื่อปี 2561 ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้ จนถึงวันนี้ ป.ป.ช. ยังตรวจสอบแค่ขั้นต้น สงสัยว่าที่ตรวจสอบไม่ได้เพราะเจ้าของบริษัทนามสกุลเดียวกับนายกฯ ใช่หรือไม่

 

ส.ส.ก้าวไกล กล่าาวอีกว่า เมื่อปี 2564 บริษัทแห่งนี้คว้างานรัฐไปอีก 3 งาน สรุปแล้วประเทศนี้จะตรวจสอบคอร์รัปชั่นไม่ได้ใช่หรือไม่ เพราะเมื่อส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. ก็เป็นหน่วยงานที่พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งขึ้นมา บริษัทนี้ ก็เป็นของหลานพล.อ.ประยุทธ์ อธิบดีกรมอุทยานฯ ก็เป็นน้องเพื่อนพล.อ.ประยุทธ์