"สมคิด"นำทีม“สร้างอนาคตไทย”เปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส

01 ธ.ค. 2565 | 14:59 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ธ.ค. 2565 | 22:08 น.

“สมคิด”นำทีมพรรคสร้างอนาคตไทย เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส ชูนโยบายสร้างเศรษฐกิจ 3 จังหวัดชายแดนใต้แก้หนี้ เติมทุน เกิดรายได้ใหม่ ตั้งศูนย์กลางฮาลาล สร้างความมั่นคง "สนธิรัตน์" ขอบคุณ "กูเซ็ง"ร่วมสร้างประเทศ


วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ที่โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส จ.นราธิวาส พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดกิจกรรมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส โดยมีแกนนำพรรค ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค


โดยได้ขึ้นเวทีเปิดตัวผู้สมัครทั้ง 3 เขต นราธิวาส ประกอบด้วย นายวัชระ ยาวอฮะซัน เขต 1, นายสารี สะมะแอ เขต 2 และ นายอามีน โต๊ะนากายอ เขต 4 มีสมาชิกพรรคและสมาชิกสภาจังหวัด 21 เขต จาก 30 เขต ที่นำโดย นายกูเซ็ง ยาวอวหะซัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส มาร่วมกิจกรรม


นายสนธิรัตน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นความภูมิใจของพรรคที่ได้มาพบปะพี่น้องชาวนราธิวาส ซึ่งเป็นวันประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และ จังหวัดนราธิวาส สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นได้ง่ายๆ สิ่งพี่น้องชาวนราธิวาสรอคอย คือ การเกิดขึ้นของบ้านใหญ่นราธิวาส ที่จะตัดสินใจเดินหน้าทางการเมือง 

 
นราธิวาส คือ พื้นที่เป้าหมายของพรรคสร้างอนาคตไทย ที่ไม่ต้องการเพียง ส.ส. แต่พรรคต้องการคนที่มาร่วมสร้างบ้านเมือง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การตัดสินทางการเมือง ว่าจะเพียงนำพา ส.ส.ให้กับพี่น้อง แต่การร่วมงานที่เกิดจากความรู้สึกว่า ตัวแทนที่แข็งแรงที่สุดของสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ถือเป็นบ้านใหญ่ที่ทรงพลัง คือ นายกูเซ็ง และวันนี้ตัดสินใจจับมือกับพวกเรา ไม่ได้แค่ ส.ส.แต่ต้องการสร้างประเทศไทยกับพรรคสร้างอนาคตไทย 


“ผมได้มาหารือกับนายกูเซ็งกันมาเป็นปี และเป็นความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานตั้งแต่ผมทำการเมืองเมื่อครั้งที่แล้ว และได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมา ทั้งนี้ ได้บอกนายกูเซ็ง ว่าไม่แพ้ นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกฯ มาเลเซีย”


เลขาธิการพรรคสร้างอนาคไทย กล่าวว่า ถ้าตนเป็นคนนราธิวาส คงไม่มีอะไรที่น่าภูมิใจอะไรที่ยิ่งใหญ่ไปกว่า การที่มีนักการเมืองดูแลประชาชนมากกว่า 30  ปี ยิ่งการพิสูจน์การเลือกตั้งครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นหัวใจที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชน 
ศึกการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ใช่ศึกเลือก ส.ส. เพราะบ้านเมืองวันนี้เดินมาถึงจุดที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อ ไม่มียุคไหนที่พรรรคการเมืองแตกกันมากเท่ายุคนี้ ถ้าจำได้การเมืองไทยไม่เคยแตกละเอียดเหมือนครั้งนี้มาก่อน แตกไม่รู้กี่พรรค แตกจนชาวบ้านงงว่า วันนี้การเมืองเล่นอะไรกันอยู่ 

                           \"สมคิด\"นำทีม“สร้างอนาคตไทย”เปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส
แต่สิ่งเหล่า คือ สิ่งที่พรรคสร้างอนาคตไทยถือเป็นหน้าที่ที่ต้องรวบรวมคนดี คนเก่งมาเข้ามาร่วมสร้างบ้านเมือง เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเลือก ส.ส. แต่การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องเลือกนายกรัฐมนตรี ฉะนั้นพวกตนจึงต้องไปกราบเรียนเชิญ นายสมคิด บอกว่าบ้านเมืองไม่ไหวแล้ว ลำบากยากแค้น เป็นหนี้เป็นสินทำมาหากินไม่ได้ และยังมีโควิด-19 ที่ทำพวกเราช้ำทั้งประเทศรวมถึงสงครามยูเครน-รัสเซีย


“ผมต้องการบอกพี่น้องชาวนราธิวาสว่า ถ้าวันนี้เลือกแค่ ส.ส. มันไม่ใช่ วันนี้ยิ่งใหญ่กว่าอดีต เพราะกำลังจะเลือกจุดเปลี่ยนประเทศไทย ต้องมองว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะมีความสามารถ ประสบการณ์ช่วยพี่น้องให้พ้นจากความทุกข์ยาก ความลำบากให้ได้ ศึกใหญ่ครั้งนี้ ไม่ใช่ศึกการเมืองอย่างที่เขาเล่นกันอยู่ แต่เป็นศึกปากท้องของพี่น้องทั้งประเทศ วันนี้คือจุดตัดสินใจที่เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ประเทศไม่ใช่การเล่นละครทางการเมือง ประเทศไม่ใช่แค่การรักษาดุลอำนาจทางการเมือง แต่ประเทศต้องสร้างความหวังและต้องรับใช้พี่น้องประชาชน” 


นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พวกเราพรรคสร้างอนาคตไทย ภูมิใจที่ นายกูเซ็งตัดสินใจมาสร้างบ้านสร้างเมืองกับพรรคที่จะเป็นอนาคต ตนได้ขอร้อง นายกูเซ็ง ขอให้พรรคสร้างอนาคตไทย มี จ.นราธิวาส เป็นบ้านใหญ่ของสามจังหวัดชายแดนใต้ และเป็นการปักธงจากนราธิวาส จะเป็นการปักธงตัวแทนพี่น้องมุสลิมและพุทธไปสู่ จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา เราอยากเห็นนราธิวาสเป็นเมืองหลวงของพรรคสร้างอนาคตไทย และของสามจังหวัดชายแดนใต้


นายสนธิรัตน์ กล่าวด้วยว่า นายสมคิด ดูเศรษฐกิจมา 2 ช่วงรัฐบาล ซึ่งทุกครั้งที่ นายสมคิด มา ประเทศวิกฤติทุกรอบ ต้องเข้ามาแก้ พอแก้เริ่มจะดีก็ต้องมีอันเปลี่ยนแปลง ปี 2540 เกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ปี 2544 นายสมคิด เข้ามาคุมเศรษฐกิจภายใต้พรรคไทยรักไทยใช้เวลาเกือบ 5 ปี พลิกฟื้นจนประเทศไทยกลายเป็นผู้นำของอาเซียน และก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและทะเลาะกันมาต่อเนื่องจนมาถึงปี 2557 ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

                                \"สมคิด\"นำทีม“สร้างอนาคตไทย”เปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส

เกิดรัฐประหาร คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นรัฐบาล ครอบอำนาจก็พยายามแก้ปัญหาแต่ทำไม่ได้ จีดีพีตกลงอย่างที่ไม่เป็นมาก่อน และเขาก็มาเชิญ นายสมคิด มาดูแลเศรษฐกิจจนดีขึ้น และเมื่อมีการเลือกตั้งปี 2562 ตนก็มาเป็นรัฐบาลได้เพียง 1 ปี เพราะเราไม่เล่นการเมืองแบบเก่าแต่เป็นคนทำงาน


“ถ้าเลือกพรรคสร้างอนาคตไทย หนึ่งพรรคจะทำให้สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นพื้นที่พิเศษด้านพลังงาน โรงไฟฟ้าชุมชนเกิดขึ้น เมื่อสมัยผมเป็นรมว.พลังงาน แต่ผมทำไม่เสร็จ เพราะถูกการเมืองผลักดันออกมาก่อน ผมจะกลับมาทำโรงไฟฟ้าชุมชนแน่ๆ พี่น้องจะได้เป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าร่วม ได้ปันผล ได้มีโรงไฟฟ้าที่ของพวกเรา” 


ทั้งนี้หากเราเป็นรัฐบาลจะติดโซล่าเซลล์ทุกหลังคาบ้าน และจะแก้กฎหมายให้พี่น้องภาคใต้ใช้โซล่าเซลล์ ซึ่งสามจังหวัดชายแดนใต้จะต้องเปลี่ยนแปลงภายใต้เศรษฐกิจ ไม่ใช่ภายใต้ความมั่นคง และพรรคจะทำให้สามจังหวัดชายแดนใต้ และ จังหวัดสตูล สงขลา เป็นเป็นศูนย์กลางสินค้าฮาลาล ทั้งอาหาร ท่องเที่ยวฮาลาล เครื่องสำอางฮาลาล สมุนไพรฮาลาล

                                กูเซ็ง ยาวอวหะซัน

ขณะที่นายอุตตม กล่าวว่า แผนพัฒนาชายแดนใต้ต้องเริ่มที่การแก้ปัญหาเร่งด่วน อย่างเรื่องปากท้องแบบครบวงจร โดยการพักหนี้ บรรเทาหนี้ที่มีอยู่ หยุดภาระหนี้ ปลอดดอกเบี้ย 5 ปี ต่อจากนั้นเติมทุน ด้วยกองทุนสร้างอนาคตไทย ซึ่งคิดดอกเบี้ยในราคาพิเศษจ่ายได้จริง 5-7 ปี ด้วยทุนงบประมาณ 3 แสนล้าน ที่ไม่ใช้การกู้เพิ่มที่จะเป็นภาระของประเทศ 


“นอกจากนี้เราจะเติมความรู้ ทักษะ เกิดอาชีพใหม่ โอกาสใหม่ต้องมา เพราะเรามีทุนทรัพยากรธรรมชาติ ทุนจากมนุษย์ ทุนจากวัฒนธรรมที่หลากหลายใช้เติมศักยภาพ ซึ่งเรามีนโยบาย 5 สร้าง สร้างอุตสาหกรรมใหม่ สร้างความเข้มแข็งชุมชน สร้างคนพัฒนา สร้างความเท่าเทียมลดความเลื่อมล้ำ สร้างการเมืองสร้างสรรค์” นายอุตตม ระบุ

                                \"สมคิด\"นำทีม“สร้างอนาคตไทย”เปิดตัว 3 ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส
ส่วน นายสมคิด ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย มือ 1 ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า การสร้างพรรคอนาคตไทยไม่ใช่เพื่อตำแหน่งนายกฯ  แต่ต้องการเป็นตัวอย่างประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่ ดังนั้น นักการเมือง คนเล่นการเมือง จึงต้องเป็นตัวอย่างที่ถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้นเราก็จะอยู่ในวังวนของการทุจริตคอร์รัปชันที่ขณะนี้ซึมลึกในคนไทยทุกคน 


“ไม่ต่างจากการติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็ผิด อนาคตที่ว่าประเทศไทยแย่ จะแย่กว่านี้” ดร.สมคิด กล่าว