เพื่อไทย แนะ กทม. โอนหนี้ -ทรัพย์สินส่วนต่อขยาย BTS สายสีเขียวคืน รฟม.

26 พ.ย. 2565 | 15:11 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2565 | 22:24 น.

เพื่อไทย แนะ กทม.โอนหนี้-ทรัพย์สินส่วนต่อขยาย รถไฟฟ้า บีทีเอสหมอชิต-แบริ่ง คืนรฟม. ชี้ปัญหาทั้งหมดเกิดจากรัฐบาล "บิ๊กตู่"บริหารล้มเหลว

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงกรณีปัญหาการต่อสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า ซึ่งล่าสุดบีทีเอส ได้ขึ้นป้ายทวงหนี้ 4 หมื่นล้านบาท จากกทม.ว่า เรื่องดังกล่าว พรรค พท.ได้เคยอภิปรายคัดค้านมาแล้ว 3 ครั้ง แต่การแก้ไขยังไม่คืบหน้า

 

โดยปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องมานาน และการก่อสร้างส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต ไปแบริ่ง สมุทรปราการ ซึ่งอยู่นอกเขตอำนาจกทม.ทำให้กทม.ไม่สามารถอนุมัติเบิกจ่ายเงินได้ เพราะเป็นเรื่องของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เป็นเจ้าภาพดำเนินการ 
 

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

 

แต่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบให้ กทม.วิ่งรถแทน รฟม. และกทม.ได้ไปจ้างกรุงเทพธนาคม ซึ่งเป็นบริษัทลูก กทม. ซึ่งได้มีการไปจ้าง บีทีเอส ดำเนินการต่อ ทั้งที่เป็นทรัพย์สิน รฟม.โดยให้วิ่งรถไปถึงปี 2585 โดยวิธีพิเศษไม่มีการประมูล ไม่ผ่านพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ร่วมทุน

 

ทั้งนี้มูลค่าหนี้ 4 หมื่นล้านบาท ส่วนแรกมีค่าระบบไฟฟ้า ส่วนที่สองคือปล่อยนั่งฟรีตั้งแต่ปี 2561 และส่วนที่สามเกิดจากจะควบรวมเป็นเส้นเดียวโดยให้สัมปทาน 40 ปีให้กทม.ไม่ต้องจ่ายเงิน

ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดที่เกิดมาจากรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์  บริหารล้มเหลว ที่เลี่ยงกฎหมายแล้วไปออกม.44 และให้กทม.รับโอนจาก รฟม.นำไปสู่การเจรจา และต่อสัมปทานล่วงหน้า

 

ปัญหาตรงนี้เกิดก่อนที่ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จะมาเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จึงเป็นเหตุผลที่นายชัชชาติ ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เพราะส่วนต่อขยายดังกล่าวอยู่นอกเขตกทม.ซึ่งสภากทม.ไม่มีอำนาจเบิกจ่ายได้

 

พรรค พท. จึงขอเสนอทางออกคือให้ กทม.โอนหนี้และทรัพย์สินส่วนต่อขยายที่ 2 ที่วิ่งรถนอกเขตกทม.กลับคืนไปให้  รฟม. ส่วนรฟม.จะนำไปวิ่งรถ หรือจะเปิดประมูลอย่างใดให้เป็นไปตามพ.ร.บ.ร่วมทุน ไม่ควรให้เป็นภาระของกทม.

 

นอกจากนั้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ควรมีมติยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ 3/2562 กรณีส่วนต่อขยายสัมปทานนอกเขตกทม.โดยเร็วที่สุด