"วิษณุ"เห็นด้วยมท.1 ถอนกฎกระทรวงที่ดินออกจาก ครม. ยอมรับรัฐแจงไม่ชัด

08 พ.ย. 2565 | 11:06 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2565 | 18:31 น.

"วิษณุ" เผยเป็นเรื่องดี มท.นำกลับไปแก้-รับฟังความเห็นประชาชนใน 15 วัน จะนำร่างกลับมาที่ ครม.อีกครั้งหรือไม่ก็ได้ ยอมรับรัฐผิดเองที่แจงกฎกระทรวงที่ดินไม่ชัดเจน

วันที่  8 พ.ย. 2565   นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่กระทรวงมหาดไทยจะถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. … ว่า  กระทรวงมหาดไทยจะเสนอ ครม.ขอถอนร่างดังกล่าว เพื่อนำกลับไปพิจารณาใหม่

 

และนำไปรับฟังความคิดเห็นของประชาชนภายในเวลา 15 วัน จึงต้องนำเรื่องมาเข้า ครม.เพื่อขออนุมัติก่อน หลังจากพิจารณา 15 วันแล้ว จะนำร่างกลับมาที่ ครม.อีกครั้งหรือไม่ก็ได้


ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อถอนร่างกฎกระทรวงนี้ไปแล้วจะเหลือร่างกฎกระทรวงฉบับ 2545 สมัยรัฐบาลไทยรักไทย นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ และกฎหมายฉบับปี 2545 จะแรงกว่าร่างฉบับล่าสุด

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามว่าร่างกฎหมายฉบับปี 2545 จะเรียกว่า “ขายชาติ” ได้เช่นเดียวกันหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ไปพูดกันเองว่ากฎหมายขายชาติ แต่ตนไม่เห็นว่าการเอาที่ดินขายแบบนี้เป็นการขายชาติ ส่วนจะเรียกว่าขายชาติก็เรียกไป เพราะการที่คนต่างด้าวจะได้มาซึ่งที่ดินมีหลายวิธี คือการเช่าระยะยาว การเช่าตามร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม เช่าได้นาน 90 ปี และได้มาด้วยการซื้อคอนโดมิเนียม 49% ของตึกทั้งหลัง

 

นายวิษณุกล่าวว่า นอกจากนี้ อาจได้มาโดยสนธิสัญญา ซึ่งมีคนต่างด้าวได้มาเยอะแยะ โดยประกาศกฎกระทรวงฉบับปี 2545 เป็นการออกตามความในประมวลกฎหมายที่ดิน ที่แก้ไขจากปี 2542 ในช่วงไอเอ็มเอฟ จึงออกกฎกระทรวงให้ขายที่ดินได้ในปี 2545 นับจากวันนั้นถึงวันนี้ 20 ปี มีคนต่างด้าวซื้อที่ดินทั้งหมด 10 ราย

 

โดย 2 รายได้สัญชาติไทย และในจำนวน 8 รายไม่มีใครซื้อ 1 ไร่ มีแค่ 100-200 ตารางวา เพื่อปลูกที่อยู่อาศัย เพราะเห็นว่ากฎกระทรวงเป็นภาระยุ่งยาก สู้ซื้อผ่านนอมินีไม่ได้ เพราะสามารถซื้อ 100 ไร่ก็ได้ จึงเลี่ยงไปซื้อผ่านนอมินี หรือตั้งบริษัทขึ้นมาถือหุ้นเอง 49% และให้คนไทย 49% และเหลือ 2% เอาจากที่ไหนมาอุดช่องไว้ได้ จึงกลายเป็นว่าไม่ใช่บริษัทของคนต่างด้าว และจะซื้อที่ดินหมื่นไร่ก็ได้
 

นายวิษณุกล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดูแล้วเห็นว่าควรจะปรับให้เหมาะสม และการแก้ไขครั้งนี้ไม่ได้เปิดให้คนต่างด้าวทุกคน เสื่อผืนหมอนใบมาจากไหนมาซื้อก็ได้ แต่ให้เฉพาะคน 4 ประเภท คือ 1.คนต่างด้าวฐานะดีซึ่งมีวิธีตรวจสอบได้ 2.คนต่างด้าวที่เกษียณ ที่ต้องการมาอยู่เมืองไทยในระยะยาว 3.คนต่างด้าวที่มีทักษะสูง

 

และ 4. ต่างด้าวที่จะเข้ามาลงทุนในไทย โดยมีข้อกำหนดอย่างเดียวกันคือต้องเอาเงินมาลงทุนในไทย โดยการซื้อหุ้นต่างๆ 40 ล้านบาท จะมาฝากแบงก์ไม่ได้ ซึ่งต่างจากกฎหมายปี 2545 ที่คนต่างด้าวสามารถซื้อได้หมด แต่ฉบับนี้จำกัดแค่คน 4 ประเภทเท่านั้น และเงินที่จะซื้อหุ้น มีกำหนดเวลา 5 ปี แต่ฉบับนี้ลดมา 3 ปี

 

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ยอมถอยกฎหมายดังกล่าวเป็นเพราะประเด็นทางการเมืองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทุกสาเหตุรวมกัน ทุกคนรุมด่าว่าขายชาติ ก็ต้องเอากลับไปทำความเข้าใจ


“เรื่องนี้ผมตำหนิรัฐบาล รวมถึงตัวผมเองด้วยว่าตอนชี้แจงไม่ชี้แจงให้ชัดเจน และอาจจะเคราะห์ร้ายเพราะเป็นการพิจารณาวันเดียวกับกฎหมายสุรา จึงตีกันสองเรื่อง ทำให้อารมณ์คนพุ่งขึ้นไป และคิดว่าดีแล้วที่จะถอน เอากลับไปทำให้ดีความเห็น เปิดรับฟังความเห็นและปรับปรุงให้เข้มงวด บางสิ่งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในวันนี้ เพราะหลายข้อถูกต้องตามที่วิจารณ์กลับไปทำให้ดี หากจะนำกลับมาเสนออีกครั้งสามารถทำได้ ไปนำกลับมาก็ใช้ฉบับปี 2545” นายวิษณุกล่าว

 

เมื่อถามว่าหากไม่ต้องการถูกเรียกว่าขายชาติ ใช้วิธีการให้ต่างชาติเช่าดีกว่าหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า การให้เช่าดีที่สุด แต่ไม่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนเท่าที่ควร เมื่อถามว่าเสียดายหรือไม่ที่ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ถูกถอนออกไป นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เสียดาย เฉยๆ