“สุดารัตน์-ศิธา”ลุยเชียงใหม่-ลำพูนชูนโยบายแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืน

02 ต.ค. 2565 | 15:30 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ต.ค. 2565 | 22:45 น.

“สุดารัตน์” ควง “ศิธา”ลุยน้ำท่วมต่อเนื่อง จากอีสานสู่เชียงใหม่-ลำพูน ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้งอย่างยั่งยืน ยกเป็น “วาระแห่งชาติ” พร้อมรุดเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านกระทบหนักสุดรอบ 10 ปี จี้รัฐเร่งสร้างอ่างเก็บน้ำ จ่ายเงินเยียวยา 

พรรคไทยสร้างไทย โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค นายปรเมธากร สวนแก้ว ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 9 นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 1 นายเอกพล พงษ์พิกุล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 2 นพ.แทนคุณ นพรัตน์สังวาลย์ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 6 พ.ต.ท.อดุลย์ คำมูล ว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดเชียงใหม่ เขต 11

                     “สุดารัตน์-ศิธา”ลุยเชียงใหม่-ลำพูนชูนโยบายแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืน

นายชัยณรงค์ ภู่พิสิฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดลำพูนเขต 1 นายณรัศมิน เทพมณี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดลำพูนเขต 2 และทีมไทยสร้างไทยจังหวัดเชียงใหม่-ลำพูน ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบอุทกภัย และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำซากจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน ที่ ต.ท่าวังพร้าว และ ต.บ้านกลาง อ.สันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ และที่ ต.บ้านแป้น และ ต.ต้นธง อ.ป่าซาง จังหวัดลำพูน 

โดยมีพี่น้องประชาชน เข้าสวมกอด และร่ำไห้ขอให้คุณหญิงสุดารัตน์ และพรรคไทยสร้างไทย ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอย่างยั่งยืน เพราะยังไม่เคยมีการชดเชยเยียวยาทั้งทางด้านทรัพย์สิน และทางด้านจิตใจให้กับพี่น้องประชาชน

                           

อีกทั้งชาวบ้านไม่เคยได้รับประโยชน์ทางการเกษตรในช่วงน้ำแล้ง แต่กลับต้องมารับน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ซึ่งปีนี้เป็นครั้งที่ 6 แล้ว ท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์ ก่อนจะยื่นหนังสือขอให้ช่วยสร้างเขื่อนเรียงหินตลิ่งลำน้ำแม่ขาน เพื่อป้องกัน และบรรเทาปัญหาน้ำท่วม

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ได้รับเรียนจากพี่น้องประชาชนว่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สันป่าตอง และ อ.หางดง ซึ่งที่เป็นพื้นที่ปลายน้ำ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ซึ่งปีนี้ในปีนี้น้ำท่วมเป็นรอบที่ 6 มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม หนักสุดในรอบ 10 ปี

               “สุดารัตน์-ศิธา”ลุยเชียงใหม่-ลำพูนชูนโยบายแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืน
เนื่องจากปริมาณน้ำจากแม่น้ำปิง มีปริมาณน้ำสูงกว่าแม่น้ำสาขา จึงไม่สามารถไหลมาบรรจบ ประกอบกับป่าไหลหลาก จึงเอ่อล้นท่วมเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตรของพี่น้องประชาชนในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ 


ขณะที่จังหวัดลำพูน เนื่องจากป่าไม้ไม่ได้อุดมสมบูรณ์ จึงทำให้น้ำไหลเร็ว และนำกิ่งไม้ไหลลงสู่แม่น้ำทา สร้างความเสียหายให้กับคอสะพาน และกัดเซาะดิน ทำให้ชาวบ้านต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมในทุกปี

                   “สุดารัตน์-ศิธา”ลุยเชียงใหม่-ลำพูนชูนโยบายแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลกระทบจากน้ำท่วม นอกจากพี่น้องประชาชนจะได้รับความเดือดร้อนจากความเสียหายของบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตรเป็นจำนวนมากแล้ว สิ่งที่สำคัญคือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ซ้ำเติมพี่น้องประชาชนในยุคข้าวยากหมากแพง


โดยปัญหาดังกล่าว เกิดจากการขาดการบูรณาการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพราะหากมีการบริหารจัดการน้ำ เพื่อสร้างฝ้ายชะลอน้ำ และอ่างเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง จะสามารถป้องกันน้ำท่วมได้ และใช้งบประมาณไม่มาก หากแต่ต้องเอาใจใส่ในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง 

              “สุดารัตน์-ศิธา”ลุยเชียงใหม่-ลำพูนชูนโยบายแก้ไขน้ำท่วม-น้ำแล้งยั่งยืน
พรรคไทยสร้างไทย จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในจังหวัดเชียงใหม่ ที่พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบทุกปี โดยต้องเร่งชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบน้ำท่วม ทั้งทางด้านทรัพย์สิน และทางด้านจิตใจ รวมถึงต้องสร้างเขื่อนเรียงหินตลิ่งลำน้ำแม่ขาน เพื่อป้องกัน และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมตามลำน้ำต่างๆ


โดยพรรคไทยสร้างไทยได้ประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาน้ำท่วม-น้ำแล้ง อย่างยั่งยืนโดยยกเป็น “วาระแห่งชาติ” วางเป้าหมายแก้ความยากจน สร้างเศรษฐกิจ และช่วยยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตให้ประชาชน