"อลงกรณ์"ซัด "อนุทิน" กัญชาเสรี..ไม่กลัวดัง แต่กลัวดับ

26 ก.ย. 2565 | 10:13 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2565 | 17:43 น.

"อลงกรณ์"ซัด "อนุทิน"กัญชาเสรี..ไม่กลัวดัง แต่กลัวดับ เตือน"เสี่ยหนู"กำลังเดินตกหน้าผาสูงจึงช่วยกันยึดตัว กลับเข้าใจผิดคิดว่าพรรคร่วมขัดขา ยันหนุนกัญชาเสรีทางการแพทย์ แต่ไม่ใช่ไร้การควบคุมจนลามถึงเยาวชน

วันที่ 24 กันยายน 2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร  โพสต์เฟสบุ๊ค แสดงความห่วงใยกรณีกัญชาเสรีทางการแพทย์ ว่า

เรื่องกัญชาเสรี..ไม่กลัวดัง แต่กลัวดับ
ประเด็น”อนุทิน”กับ”อลงกรณ์”

 

“….ถูกขัดขา  เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป เขาจึงดึงเอาไว้…” 
อนุทิน ชาญวีรกุล

 

“ด้วยรักและห่วงใย…ไม่ได้กลัวดัง แต่กลัวดับครับพี่หนู…”
อลงกรณ์ พลบุตร 

 

ดูยูทูปอ่านสื่อออนไลน์แต่เช้ามืดเกี่ยวกับข่าวที่พี่หนูพูดที่ขอนแก่นเมื่อวันวานก็รู้สึกห่วงใยและขอให้หลักคิดมุมมองใหม่ในฐานะพี่คนหนึ่งที่หวังดีว่า พี่หนูกำลังคิดผิด 2 ผิดครับ
 

\"อลงกรณ์\"ซัด \"อนุทิน\" กัญชาเสรี..ไม่กลัวดัง แต่กลัวดับ

 

ผิดแรก คือ เข้าใจผิดเพื่อนๆที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

“….ถูกขัดขา  เพราะเขากลัวพรรคดังเกินไป เขาจึงดึงเอาไว้…” ..อนุทิน ชาญวีรกุล

 

  พี่หนูในฐานะหัวหน้าพรรคภท.ทราบดีว่า พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีจุดยืนตรงกันคือ สนับสนุนกัญชาเสรีทางการแพทย์เพื่อสุขภาพเพราะเป็นสมุนไพรยาไทย
   (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็สนับสนุนแนวทางนี้)
   

แต่เมื่อพี่หนูเร่งเปิดเสรีกัญชามาพักใหญ่โดยยังไม่มีพระราชบัญญัติมารองรับก็เกิดลางร้ายผลลบมีการเสพสูบและใช้กัญชากันเสรีแบบควบคุมไม่ได้เพราะปลูกได้ซื้อง่ายขายคล่องไร้มาตรการกำกับดูแลที่ดีพอจนลามลึกไปถึงนักเรียนนักศึกษาเด็กเยาวชนชายหญิงลูกหลานของเราจึง

 

เกิดกระแสตีกลับไม่เอากัญชาเสรีจนเกิดปรากฎการณ์โรงเรียนขึ้นป้าย”เขตปลอดกัญชา”และคุณหมอนับพันออกมาคัดค้านซึ่งกระทบต่อนโยบายกัญชาเสรีเพื่อการแพทย์และสุขภาพของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆที่เกรงว่านโยบายดีๆจะพังเพราะปัญหาการบริหารจัดการจนท้ายที่สุดมีการยับยั้งร่างกฎหมายในสภาฯ.ให้ไปทบทวนใหม่ให้รอบคอบรัดกุม
   

พี่หนูจึงไม่ควรมองว่าเป็นการขัดขา 

โดยคิดว่า พรรคร่วมรัฐบาลกลัวภท.จะดัง แต่ควรรับฟังเหตุผลข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งว่าที่เกิดเหตุการณ์ทั้งในและนอกสภาฯด้วยเหตุว่า เขากลัวอนาคตของชาติจะดับเพราะเสพสูบกัญชาติดยา
งอมแงมทั้งประเทศ


    ไม่ได้กลัวดังแต่กลัวดับครับ


    อุปมาอุปมัยง่ายๆคือ เพื่อนๆพี่ๆเห็นพี่หนูกำลังจะเดินตกหน้าผาสูงจึงช่วยกันยึดตัวไว้ หากปล่อยให้เดินต่อไปจะพาประชาชนเยาวชนลูกหลานตกหน้าผาตายไปด้วย 


   จากหวังดีกลับถูกมองเป็นหวังร้าย


  นี่คือคิดผิดมองผิดพูดผิด ข้อแรกครับ


   คนเป็นผู้นำอย่างพี่หนูควรเปิดกว้างฟังความรอบด้านมีหลักคิดหลักยึดที่ดีและยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งก็จะเข้าใจสิ่งที่พี่ให้ข้อคิดมานะครับ
   ขอโทษที่วันนี้เขียนเสร็จเพียง”ผิดแรก” รอวันพรุ่งนี้หรือวันถัดไปจะเขียน”ผิดสอง”มาให้อ่านครับ.