ปธ.ศาลรธน. สั่งสอบ "เอกสารมีชัย" หลุด ยัน 8ก.ย.ยังไม่วินิฉัยนายกฯ 8 ปี

07 ก.ย. 2565 | 15:34 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2565 | 22:56 น.
1.2 k

เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ เผย ประธานศาลรัฐธรรมนูญ สั่งสอบหาที่มา "เอกสารมีชัย" หลุด ไม่ยืนยันว่าเป็นของจริงหรือไม่ ยัน 8ก.ย. ประชุมนัดพิเศษแค่รวบรวมพยานหลักฐาน ยังไม่วินิฉัยคดีนายกฯ8ปี

วันที่ 7 ก.ย. 65 เมื่อเวลา 14.30น. ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงเอกสาร ของนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการสภาร่างรัฐธรรมนูญ หลุด กรณีปมวาระ 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญประชุมนัดพิเศษ ในวันที่ 8 ก.ย.2565 เพื่อพิจารณาพยานหลักฐาน นี้


โดย นายเชาวนะ กล่าวยืนยันว่า การที่ศาลนัดประชุมนัดพิเศษในวันที่ 8 ก.ย.2565 ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการเร่งเวลาให้ช้าหรือเร็วแต่อย่างใด เพราะหลังจากที่ศาลได้พิจารณารับคำร้องเมื่อ 24 ส.ค.2565 ได้ดำเนินวิธีพิจารณาคดีตามลำดับขั้นตอน ตามกระบวนการตามปกติ  ยืนยันว่าไม่ได้มีการลัดขั้นตอน

สำหรับกรณีที่สื่อมวลชนและสื่อออนไลน์เผยแพร่เอกสารที่อ้างว่าเป็นความเห็นชองนายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่ส่งถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายเชาวนะ ระบุว่า เรื่องนี้ประธานศาลรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีความกังวลเป็นอย่างมาก ซึ่งจะต้องติดตามว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร

 

เนื่องจากมีการอ้างว่าเป็นเอกสารที่ส่งถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ไม่ได้มุ่งหมายไปที่ประเด็นว่าเป็นเอกสารจริงหรือเท็จ แต่ต้องการตรวจสอบว่าเอกสารหลุดมาอย่างไร เพื่อนำไปสู่การควบคุมรักษาความปลอดภัยต่อไป

ส่วนที่มีข่าวว่าในการประชุมนัดพิเศษวันพรุ่งนี้(8ก.ย.65) จะมีผลคำวินิจฉัยออกมานั้น ยืนยันว่ากระบวนการยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังไม่ถึงขั้นที่จะทราบมติ  เป็นเพียงการนำข้อมูล นำพยานหลักฐานที่ศาลขอไปมาพิจารณา เพื่อหารือว่าเพียงพอต่อการพิจารณาและนำไปสู่การวินิจฉัยต่อไปได้หรือไม่

 

เลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ระบุด้วยว่า “ประธานศาลรัฐธรรมนูญแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่มีการรั่วไหลของเอกสาร แม้จะไม่ทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร แต่ก็เห็นว่ากระทบกับผู้ให้ความเห็น พาดพิงเกี่ยวโยงถึงกคู่ความส่วนต่างๆ”

 

เมื่อถามว่าจะเอาผิดคนปล่อยเอกสารหรือไม่ นายเชาวนะ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของเรื่องว่าไปทางไหนอย่างไร แต่เนื่องจากมีผลกระทบต่อผู้ให้ความเห็น และมีการวิพากษ์วิจารณ์คาดการณ์ถึงผลของความเห็นต่างๆ เมื่อมีเหตุอย่างนั้นก็ควรที่จะมีการตรวจสอบในเบื้องต้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจ ทั้งนี้ขอย้ำว่าเรื่องยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ยังไม่เสร็จสิ้น แต่มีข่าวว่าเอกสารรั่วไหล เป็นสิ่งที่ต้องระมัดระวัง และเพิ่มความรอบคอบในการดำเนินการ แม้ว่าจะยังไม่ทราบว่ามาจากไหนอย่างไร ก็เป็นสิ่งที่ศาลพึงให้ความสำคัญและจะเพิ่มมาตรการให้รัดกุมมากขึ้น

 

เมื่อถามย้ำว่า เอกสารที่หลุดมานั้นเป็นของจริงหรือไม่ นายเชาวนะ ตอบว่า “ยังยืนยันไม่ได้ เพราะเห็นในโซเชียลมีเดียเช่นเดียวกับสื่อ”

 

นายเชาวนะ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ที่มีข่าวว่า การประชุมวันที่ 8 ก.ย.นั้นจะมีผลให้เกิดการเร่งรัดคดีหรือไม่ ศาลไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่เห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญ อย่างไรก็ตามการกำหนดเรื่องหนึ่งเรื่องใดนั้น ตามขั้นตอนกฎหมายระบุว่า ถ้าเห็นว่าข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานต่างๆ เพียงพอต่อการพิจารณา เพื่ออำนวยความยุติธรรม และเพื่อวินิจฉัย ก็ให้ศาลยุติการแสวงหาพยานหลักฐาน กำหนดประเด็นการวินิจฉัย เมื่อกำหนดประเด็นแล้ว จากนั้นศาลก็จะนัดอ่านคำแถลงต่อไป

 

“ขอยืนยันว่าตุลาการทั้ง 9 ท่านมีความเป็นอิสระ ยังไม่มีใครรู้ว่าคำวินิจฉัยเป็นอย่างไร และยังไม่มีใครรู้ว่าพยานหลักฐาน ณ เวลานี้เพียงพอแล้วหรือไม่ ดังนั้นไกลเกินไปที่จะบอกว่า ท่านมีคำตัดสินแล้ว เป็นการด่วนสรุปที่เร็วเกินไป” นายเชาวนะ กล่าว