ไทย-มาเลเซีย ดันสร้าง สะพานข้ามแม่น้ำโกลก พัฒนาด่านจังหวัดชายแดนใต้

15 ส.ค. 2565 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ส.ค. 2565 | 17:04 น.

รองโฆษกรัฐบาล เผย“ไทย-มาเลเซีย” ร่วมผลักดัน สร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก พัฒนาด่านจังหวัดชายแดนใต้ ด้าน ศอ.บต.เตรียมความพร้อมหารือ รมว.คมนาคมมาเลเซีย ปลายเดือนนี้

วันที่ 15 ส.ค.65 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าผลการประชุมร่วมไทยและมาเลเซีย ผ่านคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี (เจซี) และคณะกรรมการว่าด้วยยุทธศาสตร์การพัฒนาร่วมสำหรับพื้นที่ชายแดน ระดับรัฐมนตรี (เจดีเอส) ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2565 ว่า

 

ทั้งสองประเทศเห็นชอบในแนวทางการพัฒนาร่วมกันที่ครอบคลุม ทั้งความมั่นคงทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงาน สาธารณสุข และประเด็นความร่วมมือทางสังคมและวัฒนธรรมอื่นๆ

น.ส.รัชดา กล่าวว่า จะมีการทำโรดแมปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่างๆ ภายใต้กรอบเวลาที่ชัดเจนต่อไป อาทิ ด้านการค้า จะตั้งเป้าหมายมูลค่าการค้าที่ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี พ.ศ. 2568 ด้านการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเดินทางเคลื่อนย้ายของประชาชนและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

ด้านการเสริมสร้างความเชื่อมโยง จะเร่งรัดให้โครงการต่าง ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งรวมถึงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านสะเดาแห่งใหม่-บูกิตกายูฮิตัม และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก 2 แห่ง รวมทั้งจะศึกษาความเป็นไปได้โครงการความเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐปะลิส และเส้นทางรถไฟความเร็วสูง

 

การขับเคลื่อนความร่วมมือในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาเลเซีย ได้หารือกับเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีประเด็น

 

1.การพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรชายแดนไทย – มาเลเซีย ในพื้นที่จ.นราธิวาส ที่อำเภอสุไหงโกลก อำเภอตากใบ และด่านบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง 2.โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลก แห่งที่ 2 อำเภอสุไหงโกลก และที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส และ 3.โครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องตามนโยบายของรัฐบาล

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ขณะนี้ ได้ข้อสรุปที่ดีตามเป้าหมาย โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างสะพาน ทั้งสองประเทศจะร่วมกันผลักดันให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและเร็วที่สุด เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในการขนส่งการค้าชายแดน และกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

 

นายกรัฐมนตรี พอใจผลการหารือร่วมไทย-มาเลเซีย ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่ได้ประชุมร่วมกันมานานถึง 7 ปี และกล่าวว่าเป็นก้าวสำคัญของทั้ง 2 ประเทศ สู่เป้าหมายการพัฒนาในทุกๆมิติร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ที่ต้องขับเคลื่อนร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ

 

ทั้งนี้ ศอ.บต. จะรวบรวมข้อมูลและเตรียมความพร้อมเพื่อการหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ของมาเลเซีย ที่คาดว่าจะมาเยือนพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในช่วงปลายเดือนนี้” น.ส.รัชดา กล่าว