“ประวิตร”ยันไม่มีการอมรายได้ลูกน้อง 8ปีรัฐบาลจริงจังกับการปราบยาเสพติด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  ชี้แจงกรณี  กล่าวชี้แจงอภิปรายในสภาฯ หลัง นางมนพร เจริญศรี ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจว่ารัฐบาลล้มเหลวเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดที่มีสถิติเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ฯ ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องของปัญหายาเสพติดอย่างยิ่ง ถือเป็นมหันตภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายทุกอย่าง นั้น

พลเอกประวิตรกล่าวว่ารัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญเรื่องนี้ โดยได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติดปี 2564 เน้นการบำบัดรักษา ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและจิตใจ โดยถือว่าผู้เสพและผู้ติดนั้นเป็นผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้ได้ทำอนุบัญญัติ หรือ กฎหมายลูกยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ไปก่อน แต่เนื่องจากว่าปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ไม่สามารถรอได้ จึงบูรณาการความร่วมมือทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมควบคู่กันไป

“ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ไม่สามารรอได้รัฐบาลมีการบูรณาการร่วมกับภาคเอกชนและภาคภาคประชาชน ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยที่ติดยาเสพติด  มีสายด่วน1567   และภาคีเครือข่ายที่รับส่งผู้ป่วยไปยังศูนย์คัดกรองสถานพยาบาลและฟื้นฟูร่างกายและจิตใจเพื่อให้กลับคืนสู่สังคมได้มีอาชีพหาเลี้ยงครอบครัว

ส่วนการปราบปราม รัฐบาลมีการป้องกันและจับกุมทุกวันตามแนวชายแดน มีตำรวจ ทหารจับกุมทุกวัน มีการรายงานมายังผม ผมฟังท่านอภิปราย ท่านเคยไปจับกุมกับเจ้าหน้าที่หรือไม่ ก็อยากให้มาร่วมจับกุมผู้ทำผิดไม่ใช่มาพูดแบบนี้ ไม่งั้นคนทำงานตามแนวชายแดนจะเสียกำลังใจ 

ส่วนขบวนการค้ายาเสพติดก็ได้มีการกำชับหน่วยงานความมั่นคงเพื่อจับกุมซึ่งที่ผ่านมาก็มีการจับกุมไปหลายราย ส่วนการอมรายได้ผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ ถ้ามีการอมรายได้ รัฐบาลมีการตัดสินอย่างเด็ดขาด ตลอด8ปีที่รัฐบาลบริหารประเทศมาได้มีความพยายามปราบปรามยาเสพติดให้น้อยลงและพยายามช่วยผู้ที่ป่วยจากยาเสพติดคืนสู่สังคมได้หลายราย