ประมาทไม่ได้ !“อลงกรณ์”ชี้ สถานการณ์เปราะบาง หลัง "ธรรมนัส"ถอนตัว

15 ก.ค. 2565 | 15:04 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ค. 2565 | 22:12 น.

“อลงกรณ์”ชี้ศึกซักฟอกครั้งนี้ประมาทไม่ได้ เหตุสถานการณ์เปราะบางจากปมเศรษฐกิจไทยถอนตัวหนุนรัฐบาลแนะนายกฯและ10รมต.ทำตัวเหมือนผีดิบไร้อารมณ์เลี่ยงวิวาทะเคลียร์ซักฟอกทุกประเด็นเน้นเศรษฐกิจปมทุจริต


วันที่ 15 ก.ค.2565 นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคและประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พรรคประชาธิปัตย์เขียนในเฟสบุ๊ควันนี้ว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีอีก 10 คน ระหว่างวันที่19 – 22 ก.ค. โดยจะลงมติวันที่ 23 ก.ค.นี้

 

ถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งที่4และครั้งสุดท้ายของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ซึ่งรัฐบาลจะประมาทไม่ได้เนื่องจากปัญหาเสียงสนับสนุนรัฐบาลลดลงจากกรณีพรรคเศรษฐกิจไทยและเสียงสนับสนุนจากกลุ่มพรรคเล็กที่เป็นตัวแปรสำคัญยังไม่นิ่งเป็นสถานการณ์ที่เปราะบางมากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้งที่ผ่านมา

นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

  ในขณะที่กระแสทางการเมืองในปัจจุบันเอื้อต่อฝ่ายค้านใน2เรื่อง 1.ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโควิด-19ระลอกใหม่และสงครามรัสเซีย-ยูเครน

2.กระแสพรรคฝ่ายค้านดีขึ้นจากชัยชนะต่อเนื่องในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.และการเลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปางเขต4 


     ดังนั้น รัฐบาลต้องผนึกเสียง6พรรคร่วมรัฐบาลให้เป็นเอกภาพมากที่สุดและแสวงหาเสียงสนับสนุนเพิ่มขึ้นจากกลุ่มพรรคเล็กและส.ส.ในพรรคอื่นที่ต้องการสนับสนุนรัฐบาลหรือมีเจตนาจะย้ายสังกัดมาอยู่พรรคร่วมรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็จะสามารถฝ่าด่านการอภิปรายครั้งนี้ไปได้

  “ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้เป็นโอกาสการทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งสุดท้ายของพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงจะทุ่มเททุกสรรพกำลังในการซักฟอกครั้งนี้โดยมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังการอภิปรายและสร้างบาดแผลให้กับผู้นำรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลให้มากที่สุดและลึกที่สุด

 

โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจปากท้องและปมทุจริตเพื่อให้มีผลไปถึงการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้าเมื่อสิ้นวาระของสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้หรือการเลือกตั้งในปีนี้หากมีการยุบสภาภายหลังการประชุมเอเปค 
   

ด้วยเหตุนี้นายกรัฐมนตรีและ10รัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกพึงใช้วิกฤติเป็นโอกาสโดยชี้แจงข้อกล่าวหาให้ชัดเจนกระชับตรงประเด็นพร้อมนำเสนอผลงานของรัฐบาลและรัฐมนตรีแต่ละคนประกอบการชี้แจง ประการสำคัญต้องทำตัวเหมือนผีดิบคือต้องไร้ความรู้สึกไร้อารมณ์และหลีกเลี่ยงการตอบโต้เพราะจะทำให้เสียสมาธิและสูญเสียเวลาโดยไม่จำเป็นในการชี้แจงทำความเข้าใจต่อสภาผู้แทนราษฏร”