“สามารถ”จี้“สคบ.-พลังงาน-ดิจิทัล-สตช.”ป้องกันสายรัดพลังงานตุ๋นประชาชน

11 ก.ค. 2565 | 12:47 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ค. 2565 | 19:58 น.

“สามารถ” จี้ 4 หน่วยงาน “สคบ.-พลังงาน-ดิจิทัล-สตช.”เร่งพิสูจน์สายรัดพลังงานลวงโลกหรือไม่ หวั่นประชาชนตกเป็นเหยื่อถูกหลอกลวง ชี้ถ้าหน่วยงานไม่ขยับ ยุนายกฯ เปลี่ยนตัวคนทำได้เลย เหตุความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก แสดงความเห็นเกี่ยวกับสายรัดพลังงานลวงโลก ว่า วันนี้ตนได้เห็นข่าวนี้มาหลายวัน แต่ก็ไม่เห็นมีหน่วยงานรัฐหน่วยงานใดเข้าไปทลายแหล่งดังกล่าว แต่ก็ยังมีประชาชนตกเป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้ ทั้งที่มีกฎหมายให้ดำเนินการได้ ไม่ว่าจะกระทรวงดิจิตอลฯ  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กระทรวงพลังงาน  เป็นต้น


หน่วยงานเหล่านี้ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบแสวงหาข้อเท็จจริง และ ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงพ่อแม่พี่น้องประชาชน   ส่วนตัวผมมองว่าสำหรับสายรัดพลังงานไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้น  โดยมีเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว ทั้งบัตรแม่เหล็กลดพลังงานประหยัดไฟบ้าน เหรียญควอนตัมรักษาโรค มีมากมายที่เข้ามาหลอกลวงพ่อแม่พี่น้องประชาชน

“ตามที่ผมกล่าวข้างต้นว่า เหนือสิ่งอื่นใดวันนี้หน่วยงานของรัฐต้องแสวงหาข้อเท็จจริงและยุติความขัดแย้ง ยุติการหลอกลวง เพราะสุดท้ายก็จะมีความเชื่อที่ผิดและสูญเสียเงิน บางคนหลงเชื่อเอาไปติดอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต่อยอดให้เกิดปัญหาเรื่องอื่นอีกในเรื่องความเชื่อที่ผิดๆ นั้น จึงไม่แปลกใจที่บางคนอาจจะไปอยู่ในเรื่องอาหารเสริม กินลดความอ้วนสุดท้ายก็มีข่าวเสียชีวิต” 


นายสามารถ กล่าวว่า ตนคิดว่ากรณีสายรัดพลังงานนี้ ทางกระทรวงพลังงานจะต้องออกมารับผิดชอบ กระทรวงดิจิทัลฯ เลขาธิการ สคบ. และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ต้องลงมาดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิด 

สำหรับเรื่องการหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เคยกำชับมาตลอดเวลาว่า การปราบปรามการฉ้อโกง ซึ่งเรื่องนี้ตนรู้ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่และไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่เราปล่อยให้การบังคับใช้กฎหมายบกพร่อง จึงเกิดการหลอกลวงพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง 


“ไม่แปลกใจที่ทำไมแกงค์คอลเซ็นเตอร์ถึงระบาดรวดเร็ว เพราะคนมีอำนาจกลับไม่ทำหน้าที่ อ้างว่าทำไม่ได้ เพราะว่าอยู่ต่างประเทศ  ผมว่าท่านนายกฯ เปลี่ยนตัวคน วิธีการก็เปลี่ยนแล้ว”


นายสามารถ ระบุด้วยว่า วันนี้ผมขอเสนอว่าให้มีการแสวงหาข้อเท็จจริงโดยองค์กร หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายดูแลประชาชนว่า ควรเอาสายรัดพลังงานดังกล่าวมาทดสอบพิสูจน์หาความจริงว่าสามารถลดพลังงานได้จริง ตามที่มีการโฆษณากล่าวอ้างว่า ลดพลังงานได้ 30% หรือไม่ 


วันนี้ประชาชนบอบช้ำจากสภาวะเศรษฐกิจเพราะน้ำมันแพงอยู่แล้ว ดังนั้น ทุกคนจึงพยายามหาทางในการประหยัดพลังงาน แต่สุดท้ายก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องรอช้า ขอให้หน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายข้างต้นออกมาปกป้องพ่อแม่พี่น้องประชาชนตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีด้วย  อย่าให้ประชาชนลองผิดลองถูกกันเองสุดท้ายเสียเงิน เสียรู้ เสียโอกาส  ดังคำกล่าวว่า  บ้านมีกฎบ้าน เมืองมีกฎเมือง  ดังนั้นผมขอเป็นปากเป็นเสียงให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนส่งปัญหานี้ถึงนายกฯ ด้วยนะครับ


4  หน่วยลุยได้เลย  1.สคบ.  2.กระทรวงพลังงาน 3.กระทรวงดิจิทัล 4.  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ


“ถ้า 4  หน่วยงานนี้ไม่ขยับ นายกรัฐมนตรีเปลี่ยนตัวคนทำได้เลย... เพราะ ความเดือดร้อนของพ่อแม่ประชาชนรอไม่ได้” นายสามารถ ระบุ