“เสรีรวมไทย”เฮ! คว้าส.ส.ลำปาง เลือกตั้งซ่อม เขต 4 “ธรรมนัส”น้อมรับผลคะแนน
“เดชทวี" พรรคเสรีรวมไทย คว้าส.ส.ลำปาง ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 4 กวาดไป 54,359 คะแนน “ธรรมนัส”แสดงความยินดี น้อมรับผลคะแนนตามระบอบประชาธิปไตย ลั่นไม่ย้อท้อ พร้อมจับมือกก.บห.ทุกคนเดินหน้าสู้ต่อไป
วันนี้(10 ก.ค.65) เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าถึงผลการเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขต 4 แทนตำแหน่งที่ว่างอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า นายเดชทวี ศรีวิชัย ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเสรีรวมไทย ได้คะแนน 54,359 คะแนน นายพลพงศ์ พงษ์สุพัฒน์ ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคพลังสังคมไทย ได้คะแนน 3,629 คะแนน และนายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคเศรษฐกิจไทย ได้คะแนน 30,218 คะแนน
โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้ออกมาใช้สิทธิ 97,355 คน คิดเป็นร้อยละ 60.3 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเป็นบัตรดี 89,037 ใบ บัตรเสีย 3,884 ใบ บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 4,579 ใบ
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ได้ร่วมกันแถลงถึงการเลือกตั้งซ่อม เขต 4 จ.ลำปาง ซึ่งปรากฏผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ พบว่า คะแนนของผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคเสรีรวมไทย มีคะแนนนำ นายวัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครหมายเลข 3 ของพรรค ว่า
ตนเองและพรรคเศรษฐกิจไทย ขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลือกตั้งซ่อมเขต 4 ลำปาง และพร้อมน้อมรับผลคะแนนที่เป็นเสียงจากพี่น้องประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย
พร้อมกันนี้ ก็ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ลงคะแนนให้ผู้สมัครของพรรค เราจะไม่ลืมบุญคุณทุกคะแนนเสียงเช่นเดียวกัน โดยจะนำผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไปปรับปรุงแก้ไขการทำงานของพรรคต่อไป ขอย้ำว่า ถึงแม้ผลคะแนนจะเป็อย่างไรเราก็จะยอมรับ และนำสิ่งที่ผิดพลาดไปแก้ไขเพื่อประชาชนต่อไป
เมื่อถามว่าทางพรรค มีเรื่องร้องเรียนกกต.ให้ตรวจสอบผลการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสฯ กล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีเรื่องร้องเรียนอะไร แต่เราจะหารือกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร
ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย โพสต์แสดงความคิดเห็นหลังผู้สมัครส.ส.พรรคเสรีรวมไทย นายเดชทวี ศรีวิชัย หรือ ทนายแมว ชนะเลือกตั้ง ได้เป็น ส.ส.เขตคนแรกของพรรค ว่าที่ลำปางเขต 4 ซึ่งประกอบด้วย 5 อำเภอ คือ เกาะคา เสริมงาม สบปราบ เถิน และแม่พริก โดยมีคะแนนชนะขาดในทุกอำเภอ
สาเหตุสำคัญของชัยชนะครั้งนี้ ประกอบด้วยหลายปัจจัย คือ เป็นแข่งระหว่าง 2 พรรคที่อยู่ในคนละขั้วการเมือง คือ ฝ่ายค้าน พรรคเสรีรวมไทย และฝ่ายรัฐบาล พรรคเศรษฐกิจไทย โดย ผู้สมัครเศรษฐกิจไทยเป็น ส.ส.เดิมของพลังประชารัฐ ที่โดนใบเหลืองและย้ายมาพรรคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
นอกจากนี้ แนวทางการหาเสียงที่แตกต่างกัน พรรคเสรีรวมไทย ใช้เดินเคาะประตูบ้านทุกหลังใน 5 อำเภอ ในขณะที่เศรษฐกิจไทยเน้นระดมคนมาฟังปราศรัย และ ใช้เครือข่ายหัวคะแนนในพื้นที่ ทั้งนี้ชื่อของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในการจับการทุจริตการเลือกตั้งอย่างได้ผลในคราวที่ผ่านมา จน กกต.ต้องให้ใบเหลือง ทำให้กระบวนการซื้อเสียงที่เคยเกิดขึ้นในอดีตไม่สามารถกระทำได้อย่างเต็มที่
นายสมชัย ยังระบุว่า คุณสมบัติและบุคลิกของผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย ที่นอบน้อม ใกล้ชิดประชาชน และแสดงออกถึงความสามารถในการพูด ที่ประชาชนเชื่อว่าจะทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ประชาชนได้ ประกอบกับทีมงานที่เข้มแข็งของพรรคเสรีรวมไทย ที่แบ่งกันทำงานถึง 5 ทีม และยังมีหัวหน้าพรรคที่เดินเข้าหาประชาชนอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เช้าถึงค่ำ เป็นเวลากว่า 30 วัน
นายสมชัย ยังกล่าวว่า พรรคเสรีรวมไทยขอขอบคุณประชาชนที่ให้โอกาส และเป็นเสียงสะท้อนของความอยากเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของคนไทยทั้งประเทศ ประชาธิปไตยจากปลายปากกากำลังจะเกิดขึ้นแล้ว