เปิดภารกิจเร่งด่วน ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่

22 พ.ค. 2565 | 16:30 น.

เปิดภารกิจเร่งด่วนผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ทั้งปัญหาน้ำท่วม รถติด ฝุ่นควัน มลพิษ ขยะมูลฝอย คุณภาพชีวิต จัดระเบียบทางเท้า สิ่งกีดขวาง ปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รอเวลาให้มาแก้ไข

วันที่ 22 พ.ค.2565 เป็นวันที่ “คนกรุงเทพมหานคร” ได้ใช้สิทธิตัดสินใจเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) คนใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ที่คนกรุงได้กลับมามีสิทธิเลือกผู้บริหารเมืองหลวงอีกครั้ง

 

“กรุงเทพมหานคร” เป็นเมืองหลวงและนครที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการปกครอง การศึกษา การคมนาคมขนส่ง การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การสื่อสาร มีพื้นที่ทั้งหมด 1,568.73 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) มีประชากรตามทะเบียนราษฎร 5,487,876 ล้านคน (มี.ค.64) และยังมีประชากรที่ไม่ปรากฏตามทะเบียนราษฎรอีกหลายล้านคน

แน่นอนเมืองที่มีประชากรจำนวนมาก ปัญหาต่าง ๆ ก็ย่อมมีมากตามไปด้วย ซึ่งถือเป็นภารกิจของ “ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่” ที่จะต้องเข้ามาบริหาร จัดการ โดยเฉพาะ “ปัญหาเร่งด่วน” ที่กำลังรอผู้บริหารคนใหม่เข้ามาแก้ไข 

 

แก้ด่วนน้ำท่วม-รถติด

 

เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อฝนตกหนัก สิ่งที่เป็นปัญหาตามมาก็คือ “น้ำท่วมขัง” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของคนเมืองกรุงมาช้านาน

เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วม สิ่งที่เป็นผลกระทบตามมาก็คือ “รถติดหนัก” สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะขนาดฝนไม่ตก รถก็ติดเป็นประจำอยู่แล้ว จึงเป็นปัญหาเร่งด่วนที่คนกรุงคาดหวังให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่เข้ามาแก้ไข 


ก่อนหน้านี้ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล ได้สำรวจความคิดเห็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 1,506 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 21-22 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า สิ่งที่คนกรุงเทพฯ ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นมากสุด 80.2% คือ ถนนหนทางที่ดีขึ้น เรียบ ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ และน้ำไม่ท่วมขัง รองลงมา 80.1% คือ การเดินทางมีความสะดวก ปลอดภัย รวดเร็ว และรถไม่ติด 


ตามด้วย 79.2% คือ ทางเท้าน่าเดิน ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ และมีความปลอดภัย, 78.9% คือ การศึกษา การบริหารจัดการขยะ น้ำท่วมขังในชุมชน และสุขอนามัยร้านค้าต่างๆ, 75.2% เพิ่มต้นไม้ และพื้นที่สีเขียว, 75.1% คือ ลำคลองต่างๆ สะอาด และใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น, 74.6% คือ ทำกรุงเทพฯ ให้เป็นศูนย์กลางความเจริญตามมาตรฐานนานาชาติในทุกสิ่ง


เช่นเดียวกัน สถาบันพระปกเกล้า ที่ได้สำรวจความคิดเห็นทั้งคนกรุงเทพมหานคร ที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และไม่มีสิทธิ จำนวน 1,038 คน พบว่า เรื่องที่ประชาชนอยากให้ผู้ว่าฯ กทม.ดำเนินการอันดับหนึ่งคือ แก้ปัญหาการขนส่งสาธารณะและการจราจร 66.4%, จัดการสิ่งแวดล้อม ความสะอาด และพื้นที่สีเขียว 64.2% ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 52.5% ปัญหาน้ำท่วมขัง 45.4% ระบบสาธารณสุข และสุขอนามัย 41.7%


+เร่งลดค่าครองชีพ


นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงสิ่งที่ต้องการจากผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ว่า ต้องการผู้ว่าฯ กทม.ที่เข้าถึงประชาชน ทราบปัญหาเดือดร้อนจริงๆ และประสานสิบทิศ เชื่อมได้ทุกการเมือง ทุกกรมทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพราะกทม.ไม่ได้มีอำนาจทำได้ทุกเรื่อง และอยากให้เพิ่มความสามารถการแข่งขัน เร่งลดค่าครองชีพคนกรุง สร้างงานสร้างรายได้เพิ่มความสามารถจากการหาเลี้ยงชีพด้วยตนเอง


การส่งเสริมผู้ประกอบการรายเล็ก ให้มีพื้นที่หากินด้วยต้นทุนและสภาวะแวดล้อมที่แข่งขันได้ เสริมประสิทธิภาพโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนและเวลาการเดินทางของประชาชน ด้วยการเชื่อมต่อคมนาคมล้อ-ราง-เรือ ให้มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นในการติดต่อทำธุรกรรมกับหน่วยงานกทม. เพื่อลดการเดินทางให้น้อยที่สุด

                                                      เปิดภารกิจเร่งด่วน ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่
ขอมหานครที่น่าอยู่


เช่นเดียวกับ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า นโยบายของผู้สมัครเป็นผู้ว่าฯกทม. ส่วนใหญ่คล้ายกัน คือจะทำให้กรุงเทพฯ ดีกว่าที่เป็นอยู่ เป็นมหานครที่สะอาด ปลอดภัย แก้ปัญหาจราจร จัดระเบียบทางเท้า จัดการขยะมูลฝอย การทำให้แม่น้ำลำคลองสวยใส จัดระเบียบสายไฟฟ้าให้มีความสวยงาม ฯลฯ


แต่สิ่งที่อยากฝากคือ ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ต้องเร่งออกแบบกรุงเทพฯ ให้เป็นมหานครที่น่าอยู่สำหรับคนกรุงเทพฯ ทั้ง 5.5 ล้านคน (ตามทะเบียนราษฎร์) เป็นลำดับแรกอย่างแท้จริง กรุงเทพฯ มีคนต่างชาติมาเที่ยวมากกว่าลอนดอน มากกว่าปารีส แต่ส่วนใหญ่มาแบบฉาบฉวย อยู่ 5-7 วันก่อนไปต่อที่อื่น และมาอยู่เพื่อดูความอะเมซิ่งที่ไม่น่าภูมิใจ เช่น สายไฟสายสื่อสารที่ระโยงระยางแล้วถ่ายรูปขำขัน มาเที่ยวแล้วสนุก ทำทุกอย่างได้ตามใจ ทิ้งขยะตรงไหนก็ได้ไม่ถูกจับเหมือนประเทศอื่น อะไรที่ไม่เคยเห็นในโลก ทั้งถูกกฎหมายและผิกกฎหมายมีหมด


สิ่งที่ต้องการเห็นคือ การสร้างจุดขายใหม่ มีภาพลักษณ์เป็นมหานครที่ผู้คนมีวัฒนธรรมที่ดี อาหารอร่อย ราคาไม่แพง มีสตรีทฟู้ดที่จัดระเบียบอย่างดี ผู้คนมีอัธยาศัย เป็นเมืองหลวงที่สะอาด ปลอดภัย มีระเบียบ อากาศที่ดี น้ำไม่เน่าไม่เสีย หรือมลพิษทางอากาศ สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้อยู่ และผู้มาเยือน


“ที่อยากได้คือ ผู้ว่าฯ ที่มีวิสัยทัศน์ พูดจริง ทำจริง และทำทันที ทุ่มเท มีทีมงานที่แข็งแกร่ง มีความรู้ ความสามารถ มีความโปร่งใส ไม่คอร์รัปชัน เพราะงบประมาณกทม.มีมากพอสมควร และขอให้มีคนรุ่นใหม่เก่งๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยจัดระเบียบ และปรับปรุงทุกด้านให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่”


ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ


 ส่วน นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย เรียกร้องว่า ต้องการให้ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ เร่งจัดระเบียบและพัฒนาพื้นที่ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ ให้มีจุดขายอย่างยั่งยืน ในการดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น จากทุกวันนี้กรุงเทพฯ มีหลายสิ่งที่โด่งดังระดับโลก อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร จนถึงสตรืทฟู้ด  รวมถึงวัฒนธรรมถิ่นและไลฟ์สไตล์ที่น่าสนใจ


แต่ที่ยังขาดคือ การนำความโดดเด่นเหล่านี้ยกขึ้นมาโชว์เคส เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้แก่ภาคธุรกิจและชุมชนในพื้นที่ ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในลักษณะการจัดแพ็คเกจ หรือทำแคมเปญร่วมกัน ซึ่งจะเกิดได้ผู้ว่าฯ กทม.ต้องให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง เพื่อสร้างการท่องเที่ยว


นอกจากนี้อยากเห็นการพัฒนาและเพิ่มพื้นที่สีเขียว ที่จะดึงดูดคนเข้ามาเที่ยวในพื้นที่ รวมถึงการเพิ่มคุณค่าการพัฒนาส่งเสริม ทั้งวัฒนธรรมถิ่นดั้งเดิมจนถึงวัฒนธรรมเมืองยุคใหม่ จัดการปัญหาขยะ ฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจัง 


รวมถึงอยากให้ผู้ว่าฯกทม. ให้ความสำคัญจัดระเบียบธุรกิจโรงแรมและที่พักให้ถูกกฎหมาย ไม่ปล่อยให้นำห้องพักแบบคอนโดมีเนียมมาขายแบบรายวัน แก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ที่ไม่ควรให้มีอีก และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้นักท่องเที่ยวเข้าถึงข้อมูล ในการเดินทางท่องเที่ยวกรุงเทพฯ โดยผูกกับแอพพลิเคชั่นที่คนนิยมอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างใหม่


“หมอบุญ”จี้แก้จราจรด่วน


นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เห็นว่า เรื่องใหญ่สุดที่ผู้ว่าฯ กทม.ควรทำ เพื่อเพิ่มโอกาสของคนเมือง คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม การจัดวางผังเมือง แก้ปัญหาอาชญากรรม กระตุ้นเศรษฐกิจของคนเมือง และสุดท้ายคือเรื่อง “จราจร” ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วน


นายอนุรุธ ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู เสนอแนะว่า  ผู้ว่าฯ กทม.ต้องเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้ประชาชน อำนวยความสะดวกให้คนสัญจรไปมา หรือมีความเป็นอยู่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น