ตร.แจงก.ม.“คาร์ซีท” เปิดช่องจัดที่นั่งเหมาะสม "คาดเข็มขัดนิรภัย”ให้ก็ได้

09 พ.ค. 2565 | 14:10 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2565 | 21:20 น.

ตำรวจนครบาลชี้แจงหลักก.ม.“คาร์ซีท” สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 6 ขวบ มีผลบังคับใช้ 5 ก.ย.นี้ ไม่บังคับตายตัว เปิดช่องจัดที่นั่งเหมาะสม คาด“เข็มขัดนิรภัย” ให้ก็ได้ สตช.เตรียมร่างข้อกำหนด คาดบังคับใช้เต็มรูปแบบจับปรับ 5 ธ.ค.65

ตำรวจนครบาลได้ออกมาชี้แจงกฎหมายใหม่ที่เวลาเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบ หรือ มีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร นั่งรถต้องจัดที่นั่งนิรภัย หรือ "คาร์ซีท" ให้ โดย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยว่า ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับล่าสุดที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วัน หรือในวันที่ 5 กันยายนนี้ 


สำหรับกฎหมายดังกล่าวมีใจความสำคัญ คือ ป้องกันไม่ให้เด็กได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุทางถนนโดยการจัดที่นั่งที่เหมาะสมให้ โดยระบุใจความสำคัญในการป้องกันไว้ 3 รูปแบบ คือผู้

ปกครองต้องจัดที่นั่งนิรภัย หรือ "คาร์ซีท" สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ขวบหรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หรือ ต้องจัดหาที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก อายุไม่เกิน 6 ขวบหรือมีความสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร หรือ  หาวิธีป้องกันสำหรับเด็กที่โดยสารบนรถ


หากตีความข้อกฎหมายดังกล่าวจะเห็นได้ว่า ไม่ได้บังคับตายตัวว่า จะต้องใช้เพียงที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก หรือ “คาร์ซีท” เพียงอย่างเดียว แต่ยังระบุว่า หรือ จัดหาที่นั่งสำหรับเด็ก เช่น การจัดให้เด็กนั่งและคาด "เข็มขัดนิรภัย" ให้ หรืออาจใช้วิธีการป้องกันอื่นๆ เช่น การนำเด็กมานั่งตักและคาดเข็มขัดนิรภัยให้ทั้งตัวเด็ก

และผู้ปกครอง ซึ่งลักษณะและวิธีการป้องกันดังกล่าวต้องรอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่างข้อกำหนดให้ชัดเจนว่า การติดตั้งหรือจัดหาที่นั่งแต่ละแบบนั้น จะมีรูปแบบอย่างไร แบบไหนที่สามารถนำมาใช้ได้หรือไม่ได้


โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะใช้เวลาในช่วงระหว่างที่ก่อนกฎหมายบังคับใช้ 120 วัน ร่างข้อกำหนดดังกล่าวให้เสร็จสิ้น และหากยังดำเนินการไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยก็ยังมีเวลาอีก 90 วันที่สามารถร่างข้อกฎหมายให้เสร็จสิ้นได้ ซึ่งคาดว่าหากใช้เวลาเต็มที่ กฎหมายดังกล่าวก็จะบังคับใช้ หรือมีการจับปรับได้ในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 นี้

 

โดยในช่วงแรกนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล จะเน้นรูปแบบการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองทราบ และหาวิธีการป้องกันตามข้อกฎหมายดังกล่าวตามที่ระบุไว้ในเบื้องต้น แต่จะไม่ได้เป็นรูปแบบของการตั้งด่านตรวจหรือจับปรับในกรณีดังกล่าวโดยเฉพาะ แต่หากเป็นเหตุซึ่งหน้า เช่น มีการตั้งด่านตรวจในกรณีอื่นๆ แล้วพบว่าผู้ปกครองไม่ได้จัดที่นั่งที่ปลอดภัยให้ ก็จะทำการตักเตือนประชาสัมพันธ์ให้แก้ไขให้ถูกต้องเท่านั้น

 

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า หากเป็นรถโดยสาร รถแท็กซี่ รถประจำทาง หรือรถโรงเรียน กฎหมายดังกล่าวจะถูกบังคับใช้ไปด้วยหรือไม่ เรื่องนี้ตามข้อกำหนดแล้ว เป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกที่จะต้องออกประกาศว่า รถชนิดใดที่จะถูกบังคับใช้ตามกฎหมายนี้ และรถประเภทใดที่ได้รับข้อยกเว้น ซึ่งกรอบเวลาจะอยู่ในห้วงเดียวกันกับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คือ 120 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา และบวกเพิ่มอีก 90 วันหากไม่เสร็จสิ้นเรียบร้อยหลังกฎหมายบังคับใช้