“อุตตม”ประกาศดึง“สมคิด”เป็นแคนดิเดตนายกฯ เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

20 เม.ย. 2565 | 13:46 น.
อัปเดตล่าสุด :20 เม.ย. 2565 | 22:22 น.

“อุตตม”ประกาศดึง “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคสร้างอนาคตไทย สู้ศึกเลือกตั้ง ชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องประชาชนและแก้เศรษฐกิจ

วันนี้(20 เม.ย.65) ที่แกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565  โดยมีวาระสำคัญ 5 เรื่องประกอบด้วย รายงานการดำเนินกิจการของพรรคในรอบปี 2564  รายงานงบการเงิน  การแก้ไขข้อบังคับพรรค  การเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และการเลือกตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 

 

ภายหลัง นายอุตตม สาวนายน ได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2565 ที่ผ่านมาที่ตนและคณะผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ได้แสดงเจตนารมณ์ที่จะทำงานให้กับบ้านเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนคือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการวางรากฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาประเทศ 

 

จนถึงขณะนี้เราทำงานกันอย่างหนัก ผ่านการรับฟังปัญหาจากทุกภาคส่วน และเปิดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่ชุดความคิดใหม่ เพื่อรองรับนโยบายและขับเคลื่อนที่นโยบายให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด และเชิญผู้ร่วมอุดมการณ์จากหลายภาคส่วน เพื่อมาทำงานร่วมกัน

                                       “อุตตม”ประกาศดึง“สมคิด”เป็นแคนดิเดตนายกฯ เน้นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นายอุตตม กล่าวว่า นับจากนี้ไปตนและทีมงานพรรคสร้างอนาคตไทย จะขับเคลื่อนเพื่อให้พรรค เป็นสถาบันการเมืองที่มั่นคง เป้าหมายสูงสุดอันดับแรกในการทำพรรคการเมืองครั้งนี้คือ การแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากหลากหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจและปากท้อง ทั้งการเผชิญภาวะของแพงรายได้ตกต่ำ คนจนลง 

ในขณะที่คนส่วนน้อยเพียงบางกลุ่มมีโอกาสที่จะรวยขึ้นจากภาวะวิกฤตซ้ำซ้อน ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างเคยอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน 

                                           นิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร่วมยินดีกับพรรคสร้างอนาคตไทย
วันนี้เรามองไม่เห็นอนาคตดีๆ สำหรับลูกหลานเลย ทำอย่างไรคนไทยจะหยุดจากวงจรความยากจนได้ และมีโอกาสที่เท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรมีที่ทำกิน มีโอกาสที่จะเข้าถึงสวัสดิการที่สมควรได้ เช่น การศึกษาที่มีคุณภาพ เป็นต้น และยังมีปัญหาอีกนานัปการ ทั้งเรื่องความยุติธรรมที่ไม่เสมอภาคในสังคม ระบบและโครงสร้างรัฐราชการที่ไม่สามารถตอบโจทย์เสนอความต้องการและความจำเป็นของพี่น้องประชาชนที่กำลังประสบปัญหาได้ เพราะไม่ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างมานาน

                                   
หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เราอาสามาแก้ไขไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะถ้าง่ายวันนี้ ผู้ที่มีอำนาจในปัจจุบันหรือในอดีตก็สามารถแก้ไขเรียบร้อยไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาที่ประชาชนจะได้มีพรรคการเมืองทางเลือกที่เป็นที่พึ่งได้สักครั้งหนึ่ง นี่คือเหตุผลที่เรามาร่วมกันทำพรรคสร้างอนาคตไทย เพื่ออาสาเสนอทางออก และเสนอชุดความคิดใหม่เพื่อนำไปสู่นโยบายและแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม 

                                        เทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ร่วมแสดงความยินดีกับพรรคสร้างอนาคตไทย
ตนเชื่อว่าทุกคนที่มาร่วมทำงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ไม่ได้เข้ามาแสวงหาอำนาจ และเราก็ไม่เคยแสวงหาไขว่คว้าหาอำนาจนั้น หากคนที่อยู่ในแวดวงการเมืองวันนี้ สามารถแก้ไขปัญหาให้รู้ล่วงไปได้ เราก็ไม่จำเป็นต้องมาทำงานการเมือง


เราต้องการสร้างพรรคสร้างอนาคตไทย ให้เป็นองค์กรที่เปิดกว้างของประชาชน พร้อมที่จะรับฟังความต้องการของทุกภาคส่วน ทั้งที่เห็นพร้องและทั้งที่เห็นแตกต่างกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดของส่วนรวม 
พรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นพรรคที่ทำงานอย่างจริงจัง ไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน หรือพวกพ้อง โดยมีชุดนโยบาย 5 สร้างคือ 


1.สร้างเศรษฐกิจฐานรากไทยให้เข้มแข็งและทันสมัย 


2.การสร้างเศรษฐกิจใหม่หรือโครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต 


3.สร้างคนและวิทยาการที่พร้อมที่จะก้าวสู่สังคมโลกแห่งอนาคต 


4.สร้างสังคมที่เป็นธรรมและเกื้อกูล 


และ 5.สร้างการเมืองที่สร้างสรรค์ 


เพราะที่ผ่านมาเราติดกับดักการแย่งชิงอำนาจ คือเมื่อเข้าสู่อำนาจแล้วก็จะยึดติด และพยายามสืบทอดอำนาจ ก่อให้เกิดความร้าวฉาน และแบ่งพรรคแบ่งพวก นำไปสู่ภาวะชะงักชะงันในการบริหารราชการประเทศ

                                                    นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ร่วมแสดงความยินดีกับพรรคสร้างอนาคตไทย
 
พรรคสร้างอนาคตไทย จะขอยืนเคียงข้างกับประชาชนและปฏิเสธการเมืองเช่นนี้ โดยจะสร้างพลังบวกให้การเมืองไทยเพื่อตอบโจทย์ แก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ เราจะทำงานการเมืองโดยยึดถือประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก 


และจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ร่วมกันสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงบนพื้นฐานของจิตอาสา ช่วยกันหยุดประชาธิปไตยเทียม ที่ยึดอยู่กับการตอบสนองผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศชาติและส่วนรวม


นายอุตตม กล่าวว่า ส่วนบัตรประชารัฐที่ใช้อยู่นั้น เราเป็นผู้ริเริ่มคิดขึ้น ซึ่งเราก็อยากจะเข้าไปต่อยอดให้ดีกว่าเดิม รวมถึงแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง ระบบพร้อมเพย์ ที่เราเป็นคนริเริ่มใช้ก็ประสบความสำเร็จ และยังใช้เป็นเครื่องมือเยียวยาประชาชนอยู่ 


ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรืออีอีซี เราก็เป็นผู้ริเริ่มเพื่อเป็นพื้นที่สนับสนุนการลงทุนทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ให้สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนานำพาประเทศให้ก้าวทันโลก แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่ได้ทำงานมาระยะหนึ่ง ไม่สอดคล้องกลับความตั้งใจของเราที่จะเข้าไปทำงาน เราจึงก้าวออกจากวงการการเมือง 

                                       ประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมแสดงความยินดีกับพรรคสร้างอนาคตไทย
“จากนี้ไปเป็นการนับหนึ่งพรรคสร้างอนาคตไทย อย่างเต็มอัตรา โดยเราจะเสนอ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคสร้างอนาคตไทย เพราะสามารถเป็นผู้นำประเทศในอนาคตได้”


 ส่วนคำถามที่ว่าเราจะสู้พรรคการเมืองเก่าได้หรือไม่นั้น นายอุตตม กล่าวว่า ผมเชื่อว่าตรงนั้นเป็นความคิดการเมืองแบบเก่า วันนี้ประชาชนเปลี่ยนไปแล้ว สามารถแยกแยะได้ว่า นี่คือการยึดติดกับการเมืองไม่สร้างสรรค์มากกว่าที่จะมุ่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน จะทำให้ประเทศไทยไม่ไปไหน และการเมืองติดหล่มสังคมมีแต่ความขัดแย้งวันนี้ 


“จึงเป็นหน้าที่ของพรรคสร้างอนาคตไทย โดยการเสนอชุดความคิดใหม่และเสนอนโยบายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อสร้างโอกาสให้พี่น้องประชาชนและโอกาสของประเทศ" นายอุตตม กล่าว

                                         คณะผู้บริหารพรรคสร้างอนาคตไทย

ด้าน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ  กรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทย ขึ้นกล่าวหลังได้รับตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคสร้างอนาคตไทยว่า ขอบคุณคณะผู้บริหาร และ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นคนเชิญตนเองมาร่วมงานเมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่าน 


ในการพูดคุย 2 ครั้งตนได้แจ้งไปว่า เมื่อเดินออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ตนเสมือนเป็นสิ่งที่ชำรุดทางการเมืองไปแล้ว แต่ ดร.สมคิด หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคบอกว่า ตนยังมีประโยชน์ทางการเมือง จึงขอให้มาช่วยงานฟื้นฟูภาคใต้ โดยใช้คำพูดว่า "ทำภาคใต้ให้หายจน" และตนก็ขอบอกว่าครั้งนี้เป็นการทำสงครามครั้งสุดในในชีวิต แพ้ชนะตนไม่เสียใจเลย เพราะตนกำลังหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนภาคใต้


นายนิพิฏฐ์ กล่าวอีกว่า ในอดีตตนใส่เสื้อแจ็คเก็ตของพรรคประชาธิปัตย์ แต่วันนี้มาใส่แจ็คเก็ตของพรรคสร้างอนาคตไทย ฉะนั้นขออย่าดูที่แจ็คเก็ตที่ใส่ เพราะไม่ว่าจะใส่แจ็คเก็ตไหนก็ตาม หัวใจของตนยังเป็นเหมือนเดิมทุกประการและในฐานะที่เป็นนักกฎหมายก็จะสู้เพื่อสิ่งนี้ให้กับประชาชน