"นายกฯ" ห่วงยอดติดเชื้อโควิดยังสูง แนะพาเด็กฉีดวัคซีน ก่อนเปิดเทอม พ.ค.นี้

15 เม.ย. 2565 | 11:57 น.
อัปเดตล่าสุด :15 เม.ย. 2565 | 19:39 น.

"บิ๊กตู่" ห่วงยอดติดเชื้อโควิดรายวันยังทรงตัวสูง ย้ำสงกรานต์เข้มมาตรการ ด้าน สธ. แนะเด็กอายุ 12-17 ปี และเด็กเล็กฉีดวัคซีนโควิด-19 และเข็มกระตุ้น ก่อนเปิดเทอม พ.ค.นี้


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (15 เม.ย. 2565) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในไทยยังทรงตัวสูง ขณะที่แนวโน้มผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตยังเพิ่มขึ้น

 

ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ขอให้ทุกคนยังต้องเข้มในการปฏิบัติตามมาตรการเพื่อลดการติดเชื้อภายใต้ข้อกำหนดที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ผ่อนคลายมาตรการให้จัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้

 

พร้อมขอลูกหลานพาผู้สูงอายุในครอบครัวไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิตหากติดเชื้อ รวมทั้งขอให้เด็กอายุ 12-17 ปี เข้ารับการฉีดเข็มกระตุ้นก่อนเปิดเทอมช่วงเดือน พ.ค. นี้ด้วย

  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม

 

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข แนะนำว่า เด็กอายุ 12-17 ปี ขณะนี้เข้าสู่ระยะที่ต้องมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้นแล้ว ควรเข้ารับวัคซีนก่อนเปิดเทอมช่วงเดือน พ.ค. 2565 โดยสามารถเลือกรับได้ทั้งแบบเต็มโดสหรือครึ่งโดส ซึ่งทั้ง 2 แบบมีประสิทธิภาพในการเพิ่มภูมิคุ้มกันไม่แตกต่างกัน เพียงแต่การฉีดครึ่งโดสจะมีผลข้างเคียงจากวัคซีนน้อยกว่า

 

โดยกลุ่มเด็กที่สุขภาพปกติ จะฉีดโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ส่วนกลุ่มเด็กป่วยสามารถรับบริการในโรงพยาบาลที่รักษาได้ ขณะที่เด็กประถมศึกษาอายุ 5-11 ปี ที่ฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้ว จะฉีดเข็ม 2 ห่างจากเข็มแรกประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการเร่งรัดฉีดเพื่อรองรับการเปิดเทอมต่อไป

สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม รวม 20,289 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 20,221 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 68 ราย ทำให้ผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 1,769,857 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565)

 

โดยมีผู้หายป่วยกลับบ้านแล้ว 24,969 ราย รวมหายป่วยสะสมอยู่ที่ 1,573,264 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ขณะที่มีผู้ป่วยกำลังรักษาอยู่ 224,905 ราย และเสียชีวิต 119 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลขยับมาเป็น 2,024 ราย เฉลี่ยจังหวัดละ 26 ราย อัตราครองเตียง ร้อยละ 28.1.