ครม.ตั้ง "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" นั่งบอร์ด เทคโนโลยีอวกาศ

หลังจากที่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตแกนนำ กปปส. ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า เตรียมปูทางเข้าสู่เป็นสมาชิกพรรค รวมไทยสร้างชาติ นั้น  

ล่าสุดในการประชุม ครม.วันนี้ (22 มีนาคม 2565) ได้อนุมัติแต่งตั้งให้ นายเอกนัฏ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว

สำหรับนายเอกนัฎ มีชื่อเล่นว่า ขิง เกิดเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2529 เป็นลูกชายคนที่ 2 ของนายพรเทพ เตชะไพบูลย์ กับนางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ ภริยาคนปัจจุบันของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีพี่ชายชื่อ นายสิทธิพัฒน์ เตชะไพบูลย์ (โขง) และน้องสาวคือ นางสาวธีราภา พร้อมพันธุ์ (เข็ม)

การศึกษา

• ประถมศึกษา โรงเรียนเซนต์คาเบรียล กรุงเทพมหานคร
• มัธยมศึกษา Charterhouse School (นักเรียนทุนอันดับที่หนึ่ง) , Godalming , Surrey สหราชอาณาจักร
• ปริญญาตรี ควบปริญญาโทใน 2 สาขา EEM (Engineering, Economics and Management)จาก มหาลัยออกซฟอร์ด University of Oxford สหราชอาณาจักร

นายเอกนัฏ เข้าสู่เส้นทางการเมืองเริ่มต้นจากการเป็น เลขานุการส่วนตัวของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ซึ่งเป็นบิดาบุญธรรม ในเหตุการณ์การก่อความไม่สงบของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2552 นายเอกนัฏ อยู่เคียงข้างนายสุเทพตลอดโดยเฉพาะเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้บุกเข้าไปในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช ที่พัทยา

ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 นายเอกนัฏ ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 29 (เขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม (เฉพาะแขวงหนองค้างพลู)) สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเขตเดียวกันกับ นายวัชระ เพชรทอง ส.ส. เดิมของพรรค ที่ต้องเปลี่ยนไปลงแบบระบบบัญชีรายชื่อแทน

นายเอกนัฏ ในวัยเพียง 25 ปี ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ด้วยคะแนน 37,932 คะแนน นับเป็น ส.ส.ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับเลือกตั้งในครั้งนั้น ทั้งยังเป็น ส.ส. ชายคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เกิดหลังฉลองกรุงฯ 200 ปีด้วย

ช่วงเหตุการณ์มหาอุทกภัยในปี พ.ศ. 2554 เขาได้ลงพื้นที่ดูเรื่องน้ำท่วมในเขตหนองแขม และพื้นที่ใกล้เคียงอย่างใกล้ชิดในฐานะที่เป็น ส.ส. พื้นที่ อีกทั้งยังได้ช่วยเหลือประชาชนในด้านต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่อย่างแข็งขัน จนได้รับคำชื่นชมอย่างมาก

นอกจากนี้ในวิกฤติการณ์การเมืองไทยเมื่อปี 2556–2557 นายเอกนัฏเป็นหนึ่งใน 9 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคและกรรมการบริหารพรรค และเข้าเป็นหนึ่งในแกนนำ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข) ซึ่งเป็นแกนนำที่มีอายุน้อยที่สุด ทำหน้าที่เป็นโฆษกของการชุมนุมชี้แจงข่าวสารและทำความเข้าใจในเรื่องต่าง ๆ กับสื่อมวลชนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากการชุมนุมในครั้งนั้น ในวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับแกนนำ กปปส. รวม 43 คนเพื่อติดตามตัวมาดำเนินกระบวนการตามกฎหมาย โดย นายเอกนัฏ เป็นผู้ต้องหาหมายเลขที่ 9

อย่างไรก็ดี หลังเหตุการณ์ครั้งนี้เขาได้เข้าอุปสมบทที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ และเข้าจำพรรษาที่วัดป่าอัมพวัน จังหวัดชลบุรี เช่นเดียวกับแกนนำและแนวร่วมคนอื่น ๆ

กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาเขาได้ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์โดยให้มีผลทันที ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เตรียมย้ายไปสังกัด พรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนจะมาปรากฎชื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็น กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ในวันนี้