จี้"บิ๊กตู่"แก้ปมสัดส่วนบอร์ด ปตท. ไม่สอดคล้องการถือหุ้นของรัฐ

14 มี.ค. 2565 | 15:00 น.
อัปเดตล่าสุด :14 มี.ค. 2565 | 22:12 น.

อนุ กมธ.รัฐวิสาหกิจฯ จี้นายกฯ แก้ปัญหาสัดส่วนบอร์ด ปตท.ไม่สอดคล้องการถือหุ้นของรัฐ เพื่อรักษาผลประโยชน์ประชาชนแทนผลประโยชน์กลุ่มทุน

นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน คณะที่สอง แถลงข่าวผลการพิจารณากรณีการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ของคณะอนุกรรมาธิการว่าได้พิจารณาประเด็นเรื่องการดำเนินงานและกำไรของ ปตท.ที่มากเกินไปมาแล้วกว่า 10 ครั้ง ซึ่งผลกำไรที่มากเกินไปของ ปตท.จะนำสู่การกำหนดนโยบายด้านเชื้อเพลิงที่ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน

 

ดังนั้นคณะอนุกรรมาธิการจึงตั้งข้อสังเกตในกรณีดังกล่าวในเรื่องของต้นทุน ว่าทางคณะอนุกรรมาธิการพยายามที่จะขอข้อมูลจากปตท.แต่ก็ถูกปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล ซึ่งประเด็นนี้ทางอนุกรรมาธิการมองว่าต้นทุนน้ำมันของปตท.คำนวณมาจากราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่สิงคโปร์

 

แต่ปตท.กลับไม่ได้นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปมาจากสิงคโปร์ แต่เป็นการกลั่นน้ำมันเองภายในประเทศ ดังนั้นจึงมองว่ากำไรของปตท.นั้นมากกว่าต้นทุนที่ควรได้รับหรือไม่ 
 

ส่วนเรื่องผลกำไรของ ปตท.ที่นำส่งรายได้ในปี 2564 ให้กับรัฐบาลที่ 82,536 ล้านบาท ซึ่งกำไรดังกล่าวที่นำส่งให้รัฐบาลนั้นมาจากที่รัฐบาลเข้าไปถือหุ้น จากเงินปันผลวายุภักษ์ และ จากภาษีนำส่ง ซึ่งกรณีเรื่องภาษีนำส่งคณะอนุกรรมาธิการมองว่าไม่ควรนำมาคำนวณเป็นรายได้ส่งรัฐ ขณะเดียวกัน ปตท.ได้บิดเบือนตัวเลขกำไรส่งรัฐจากความเป็นจริงที่นำส่งกำไรเพียง 36,075 ล้านบาท จาก  82,536 ล้านบาท 

อนุ กมธ.รัฐวิสาหกิจฯแถลงจี้นายกฯ แก้ปัญหาสัดส่วนบอร์ด ปตท.

ส่วนเรื่องสัดส่วนบอร์ดบริหารของ ปตท. ว่า คณะอนุกรรมาธิการ มองว่าบอร์ดบริหาร ปตท.ที่มาจากภาครัฐมีเพียง 33% และที่เหลือ 67 % นั้นมาจากภาคส่วนเอกชนซึ่งมองว่าไม่สอดคล้องกับการถือหุ้นของปตท.ที่ภาครัฐเข้าไปถือหุ้นกว่า 62% ดังนั้นจึงมองว่าการพิจารณาออกนโยบายต่างๆของ ปตท.จึงเป็นการรักษาผลประโยชน์ให้กับกลุ่มนายทุนมากกว่ารักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชนหรือไม่

 

จึงขอเรียกร้องไปยังพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลงมาดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วน และในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรก็จะเตรียมตั้งกระทู้ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในเรื่องนี้เช่นกัน

 

ขณะเดียวกันในชั้นการประชุมของคณะอนุกรรมาธิการก็จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเข้าหารือว่าจะแก้ปัญหาดังกล่าวได้อย่างไร ซึ่งหากจำนวนบอร์ดบริหารของ ปตท.ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็จะไม่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐวิสาหกิจที่ไม่มุ่งเน้นหากำไร แต่ต้องมุ่งเน้นดูแลประชาชน

“ฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี ว่าขอให้ท่านลงมาดูด้วย เพราะอันนี้เป็นปัญหาสำคัญ เพราะว่าบอร์ดมีอำนาจในการตัดสินใจนโยบายของ ปตท. ฉะนั้นถ้าไม่สอดคล้องกับจำนวนที่รัฐไปถือหุ้นแล้วนั้น เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าบอร์ดที่มานั่งจะรักษาผลประโยชน์ให้กับประชาชน บอร์ดที่มานั่งถ้ามาจากภาคธุรกิจเอกชนก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้กับนักลงทุน ให้กับนายทุนแทนที่จะมารักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน” นายอัครเดช กล่าว