“พรรคสร้างอนาคตไทย”เปิดตัวชูแก้เศรษฐกิจปากท้อง 

19 ม.ค. 2565 | 11:43 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2565 | 19:39 น.
1.1 k

พรรคสร้างอนาคตไทย ภายใต้การนำของ “อุตตม-สนธิรัตน์” ได้ฤกษ์เปิดตัว 19 ม.ค.นี้ ชูแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ทั้งในระดับมหภาคและจุลภาค แย้ม “นักการเมือง-นักธุรกิจ-นักบริหาร-นักวิชาการ-คนรุ่นใหม่”เข้าร่วมเพียบ  

สปอร์ตไลท์การเมือง ในวันที่ 19 ม.ค.2565 จะฉายไปที่ การเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ “พรรคสร้างอนาคตไทย” ภายใต้การขับเคลื่อนของกลุ่ม “4 กุมาร” ที่นำโดย นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นที่ปรึกษา และให้การหนุนหลัง

 

พรรคสร้างอนาคตไทย จะเปิดตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 19 ม.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ไฮแอท เซ็นทรัลเวิลด์

สำหรับ “พรรคสร้างอนาคตไทย” ใช้ตัวย่อ “สอคท.” อยู่ในสารบบพรรคการเมืองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลำดับที่ 33 วันที่จัดตั้งคือ 31 ส.ค.2561 หัวหน้าพรรคคือ นายธาราวุฒิ สืบเชื้อ เลขาธิการพรรคคือ นายอธิวัฒน์ พัชรปรีชาพัฒน์ ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ ต.เชียงรากใหญ่ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี 

 

นโยบายของพรรคสร้างอนาคตไทย ภายใต้การนำของกลุ่ม “4 กุมาร” จะเน้นเรื่องเศรษฐกิจปากท้อง ทั้งในระดับมหภาค และจุลภาค เพื่อแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับประชาชน ซึ่งกำลังเผชิญผลกระทบจากภาวะทางเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาด

ชวนร่วมสร้างอนาคตไทย

 

นายอุตตม สาวนายน ได้ชี้แจงถึงจุดกำเนิดของการก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ว่า ได้สัมผัสถึงความรู้สึกของพวกเราชาวไทย ที่มีความกังวลต่ออนาคตของประเทศ มองไม่เห็นว่าจะเดินไปต่อกันอย่างไร เพราะเรามีปัญหามากมาย หลายปัญหาฝังรากลึกทำร้ายประเทศมานานเกินควรแล้ว และหากเราปล่อยให้ความรู้สึกดังกล่าวเกาะกินใจทุกคนต่อไปเรื่อยๆ  วันหนึ่งทุกคนก็จะรู้สึกหมดหวัง เมื่อถึงเวลานั้นประเทศคงไม่สามารถอยู่บนเส้นทางที่เจริญก้าวหน้าต่อไปได้

 

“ผมเชื่อว่าพวกเราไม่อยากอยู่อย่างไม่มีความหวัง ดังนั้นเราจึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากมาร่วมกันจัดการกับปัญหาที่มีอยู่ เราไม่มีเวลาที่จะไปบอกว่า ใครถูก ใครผิด แต่เราจะต้องไม่ซ้ำเติมปัญหาและสถานการณ์ที่เป็นอยู่ เราจำเป็นต้องรวมพลัง เพื่อทำทุกอย่างให้ประเทศของเราดีขึ้น ผ่านพ้นวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ โรคระบาด หรือสังคมที่อยู่บนความขัดแย้ง เพื่อประเทศไทยก้าวต่อไปได้ สร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลานของเราต่อไป

 

วันนี้ พวกเรามีอุดมการณ์ทำงานเพื่อบ้านเมือง ดังที่ผมได้กล่าวมา ได้เริ่มต้นออกเดินทางสู่เป้าหมายแล้ว ด้วยความหวังที่เต็มเปี่ยมว่า ความคิดและอุดมการณ์นี้ จะกลายเป็นพลังยิ่งใหญ่ ให้คนไทยทุกคนมาร่วมสร้างอนาคตประเทศ ไปด้วยกัน

 

ด้วยเหตุนี้งานสำคัญชิ้นแรกของปีของผม คือ การเปิดตัวพรรคการเมืองใหม่ ที่ผมอยากให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับคนไทยจากทุกภาคส่วน ทุกช่วงอายุ สามารถมาแชร์ความคิด ร่วมหาทางออก ร่วมสร้างอนาคตให้กับประเทศไทย” นายอุตตม ระบุ

 

ศูยน์รวมคนหลากอาชีพ 

 

ด้านนายวัชระ กรรณิการ์ สมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะกรรมการประสานงานพรรค ระบุว่า กลุ่มผู้ร่วมอุดมการณ์ของพรรคจะเป็นบุคคลจากหลากหลายสาขาอาชีพ และจากทุกสถานะของสังคม ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ นักบริหาร นักวิชาการ คนรุ่นใหม่ หรือแม้กระทั่งภาคประชาชน

 

“ส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่า พรรคนี้จะเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะมีองคาพยพที่ประกอบ ด้วย คนดี คนเก่ง และคนทำงานจากทุกภาคส่วน ไม่เพ้อฝัน ไม่สุดโต่ง เราคาดหวังว่า พรรคจะเป็นตัวเลือกใหม่และความหวังใหม่ทางการเมืองของประชาชนอย่างแท้จริง”

                                                  “พรรคสร้างอนาคตไทย”เปิดตัวชูแก้เศรษฐกิจปากท้อง 

นายวัชระ กล่าวด้วยว่า จากการได้เห็นองค์ประกอบของพรรคบางส่วน เชื่อมั่นว่าบุคลากรของพรรคทางด้านเศรษฐกิจ จะเป็นบุคลากรที่ดีและมีความสามารถมากที่สุด เมื่อเทียบกับทีมเศรษฐกิจของพรรคการเมืองอื่นๆ ซึ่งจะต้องรับมือกับเศรษฐกิจในปัจจุบันและอนาคต ที่ว่ากันว่าน่าจะเป็นปัญหาสำคัญที่สุดของประเทศในอีกหลายปีข้างหน้า

 

“สันติ-สุพล”ร่วมทีม

 

ด้านความเคลื่อนไหวของส.ส.ที่จะเข้าร่วมงานการเมืองกับ “พรรคสร้างอนาคตไทย”นั้น  นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ออกจากการเป็นสมาชิก พปชร. ต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้ว ส่งผลให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง 

 

ขณะที่ นายสุพล ฟองงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ก็ได้มีหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอลาออกจากการเป็น ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2565 เป็นต้นไป
โดยทั้ง 2 คนจะเข้าร่วมเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ในวันที่ 19 ม.ค.ด้วย

 

ก.ค.พร้อมลงเลือกตั้ง

 

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ภาคใต้ ก็ได้เข้าร่วมการจัดตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย ไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

โดยนายนิพิฏฐ์ เคยออกมาระบุถึงความพร้อมของพรรคสร้างอนาคตไทยในการลงสนามเลือกตั้ง ว่า ความพร้อมของพรรคต้องมีอยู่ 2 ระยะ ระยะที่เร็วที่สุด วิกฤติที่สุด เกิดการเมืองวิกฤติขึ้นมา คิดว่าเดือนม.ย.-ก.ค.2565 เราต้องพร้อมแล้ว

 

“สำหรับผมดูแลเฉพาะภาคใต้ ผมคิดว่าเฉพาะภาคใต้ที่ผมดูแล เดือนมิ.ย. ก.ค.ต้องมีความพร้อม 100% สมมุติกฎหมายลูกเสร็จ อาจจะมีการยุบสภา มิ.ย.เราต้องพร้อมในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนกฎหมายลูกเสร็จแล้ว รัฐบาลยังถูลู่ถูกังไปได้ อาจจะต้นปีหน้า หรือปลายปีนี้ APEC จบ ก็ว่าไป เป็นความพร้อมอีกระดับหนึ่ง” 
นายนิพิฏฐ์ ระบุว่า พรรคใหม่ไม่ได้คิดว่าจะเปิดตัวกันในตำแหน่งใด คิดกันเพียงว่ามีเจตนาตรงกันในการทำการเมืองใหม่ เข้าไปกู้วิกฤติเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า และระดมนักเศรษฐศาสตร์เข้ามาให้มาก 

 

ส่วนใครจะเป็นหัวหน้าพรรค รู้อยู่แล้ว ให้พรรคประกาศดีกว่า หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ใครจะเป็นแคนดิเดตที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีมีทั้งนั้น มองตาก็รู้กันแล้วว่า ใครมีศักยภาพตรงไหน เพียงแต่รอประกาศ ตั้งพรรคเป็นทางการ เป็นวาระของพรรคที่จะประกาศตามขั้นตอน

 

“เวลาคุยกัน เราคุยกว้าง ๆ ว่า เหมือนประชุมสงฆ์ ถ้าเห็นว่ามีใครมีเหมาะสมดีกว่านี้ก็ให้กล่าวขึ้นท่ามกลางสงฆ์ แต่มองตากันแล้ว เท่าที่มีอยู่ก็ประมาณนี้ หลักการข้อแรกในการทำการเมืองของพวกเรา คือ เราสกรีนคนมากเลย กว่าจะมานั่งท่ามกลางสงฆ์ได้ เป็นอริยสงฆ์ทั้งนั้น บริสุทธิ์ทั้งนั้น”นายนิพิฏฐ์ ระบุ

 

 

“อุตตม”ตั้งพรรคใหม่ เป็นสิทธิตามกฎหมาย

                                               “พรรคสร้างอนาคตไทย”เปิดตัวชูแก้เศรษฐกิจปากท้อง 

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี และตอบคำถามแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กรณี นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.พลังงาน และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรมว.พลังงาน เปิดตัวตั้งพรรคใหม่ “สร้างอนาคตไทย”ว่า เป็นสิทธิที่กระทำได้ตามกรอบกฎหมาย ซึ่งนายกฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย

 

ด้านนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐลาออก เพื่อไปร่วมงานการเมืองกับพรรคสร้างอนาคตไทยว่า กรณีของนายสุพล ฟองงาม และ นายสันติ กีระนันท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ที่ลาออกไปอยู่กับพรรคสร้างอนาคตไทยของนายอุตตม เดิม นายสุพล และ นายสันติ อยู่ในฝั่งของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก  

 

“แต่มีสิ่งน่าห่วงคือ คะแนนนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์ ขณะนี้ดิ่งลง ถ้ายังดิ่งลงมากกว่านี้ จะมีเลือดไหลออกมาตามมาอีกแน่ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์แก้ปัญหาดี ใครจะไป ทั้งหมดขึ้นอยู่กับฝีมือการบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์” นายวีระกร ระบุ