“นิพนธ์"โต้“ธรรมนัส”หลังพ่ายเลือกตั้งซ่อมส.ส.อย่าทำตัวขี้แพ้ชวนตี

17 ม.ค. 2565 | 11:58 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ม.ค. 2565 | 19:04 น.

“นิพนธ์"โต้“ธรรมนัส พรหมเผ่า” หลังพ่ายเลือกตั้งซ่อมส.ส.สงขลา-ชุมพร อย่าทำตัวขี้แพ้ชวนตี ไม่ใช่นิสัยของคนที่มีน้ำใจนักกีฬา กล่าวหาพรรคอื่นโกง แนะหากมีพยานหลักฐานก็ยื่นต่อ กกต.ได้ เตือนทำเสียหายเจอฟ้องแน่

นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีข่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ออกมาระบุภายหลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.สงขลา และ ชุมพร ว่า  กรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ในทำนองที่ว่า "ผมไม่เคยเห็นการโกงการเลือกตั้งอย่างนี้มาก่อน ไม่น่าเชื่อว่าพรรคพรรคหนึ่ง ที่มีภาพทางการเมืองที่บริสุทธิ์เป็นแบบนี้"คิดว่าวันนี้การแข่งขันถือว่ายุติลงแล้ว 

 

“การที่ท่านธรรมนัส ซึ่งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ถือว่าเป็นผู้ใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐกล่าวอย่างนี้ เสมือนว่าแพ้แล้วชวนตี ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันอย่างนี้” 

นายนิพนธ์ ระบุว่า ตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นการแข่งขันกันตามกติกาในระบอบประชาธิปไตย เรามีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) คอยกำกับ คอยดูแล คุณธรรมนัสจะมาทำตัวกล่าวหาคนอื่นแทนคณะกรรมการเลือกตั้ง จึงไม่ใช่วิสัยที่จะทำ 

 

แต่ถ้าคุณธรรมมนัส มีพยานหลักฐานก็สามารถเอามาแสดงที่คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ ซึ่งเขามีหน้าที่ดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมอยู่แล้ว ซึ่งการที่พอแพ้แล้วกล่าวหาการเลือกตั้ง ถือว่าไม่ใช่นิสัยของคนที่มีน้ำใจนักกีฬา 

ฉะนั้น การที่จะกล่าวหาคนอื่นให้เสียหาย ว่ามีการโกงการเลือกตั้งจึงต้องระมัดระวัง ไม่ใช่พูดเอามันเข้าว่า หากทำให้พรรคเสียหาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็สามารถดำเนินการใดๆ ตามกฎหมายได้  ฉะนั้นจึงถือโอกาสนี้ฝากเตือนสติว่าจะทำอะไรต้องให้เกียรติคนอื่นบ้าง 

 

“ผมคิดว่าเมื่อเป็นผู้ใหญ่กันแล้วจะทำอะไรต้องระมัดระวัง ไม่ใช่กล่าวหาคนอื่นได้รับความเสียหาย หรือทำให้คนอื่นต้องมัวหมองไปด้วย ไม่ใช่ว่าตนเองแพ้การเลือกตั้ง ไม่รู้จะไปอธิบายกับใครอย่างไร ก็กล่าวหาคนอื่นโกงการเลือกตั้ง”

 

นิพนธ์ กล่าวต่อว่า จึงขอถือโอกาสนี้เรียนกับพี่น้องประชาชนว่า พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และไม่พูดจาอะไรให้คนอื่นเสียหาย ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ย้ำตลอดว่าในระบบประชาธิปไตยนั้น ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน 

 

“ฉะนั้นถือโอกาสนี้เรียนกับพี่น้องว่าพรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการทางการเมืองอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ตามแนวทางของพรรค และจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมายแน่นอน นี่คือสิ่งที่ยืนยันกับพี่น้องประชาชนได้” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว