พรรคร่วมรัฐบาล ยื่นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ พรุ่งนี้

22 ธ.ค. 2564 | 16:26 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2564 | 23:37 น.

"นิกร" เผย พรรคร่วมรัฐบาล ยื่นร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และ ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง11.00 น พรุ่งนี้ . เชื่อปมเห็นต่าง เคลียร์ได้ไร้ปัญหา

วันที่ 22 ธ.ค.64 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ฐานะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เปิดเผยว่า พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมยื่นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และะ ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมืองต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาา ในวันที่ 23 ธันวาคม เวลา 14.00 น. 

 

โดยเนื้อหาถือว่าเรียบร้อยได้ข้อยุติในภาพรวม แม้มีบางประเด็นที่ยังเห็นไม่ตรงกันในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลแต่จะใช้กลไกของกรรมาธิการฯ เพื่อแปรญัตติแก้ไข อย่างไรก็ดีจากการหารือกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทำให้ทราบถึงแนวทางพิจารณาและเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในทางปฏิบัติในประเด็นที่ส.ส.เห็นต่างจากร่างพ.ร.ป.ที่เสนอโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา

นายนิกร กล่าวด้วยว่า สำหรับร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองที่ กกต. ยกร่างและทำความเห็นนั้น ยอมรับว่าแก้ไขเพียงรายละเอียดตัวเลขของส.ส.บัญชีรายชื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ แต่ไม่พบการแก้ไขปัญหาของนายทะเบียนพรรคการเมืองและพรรคการเมือง ดังนั้นหากให้ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองของรัฐบาล ที่เสนอรัฐสภา โดยการยกร่างของ กกต. เป็นร่างหลักในการพิจารณา เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาในกระบวนพิจารณา และส.ส.สามารถเสนอแก้ไขได้ โดยเฉพาะประเด็นการเลือกตั้งขั้นต้นเพื่อหาผู้สมัคร ส.ส.(ไพรมารีโหวต) ที่เสนอให้แก้ไขให้ใช้ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเป็นผู้แสดงความเห็นต่อรายชื่อผู้สมัครส.ส. ที่พรรคการเมืองจะส่งลงเลือกตั้ง โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งต่างจากกฎหมายฉบับเดิม

 

 ทั้งนี้การแก้ไขประเด็นดังกล่าาวพรรคร่วมรัฐบาลพิจารณาแล้วเห็นว่าสอดคล้องกับ มาตรา 45 ของรัฐธรรมนูญ วรรคสองที่กำหนดให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมกับพรรคการเมืองในการกำหนดนโยบายและการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างกว้างขวาง

นายนิกร กล่าวด้วยว่าสำหรับประเด็นที่ยังเห็นต่าง คือ หมายเลขผู้สมัคร ส.ส. ที่ กกต. และพรรคเพื่อไทย เสนอให้ใช้หมายเลขเดียวกันทั้งการสมัครแบบและแบบบัญชีรายชื่อ แต่ของพรรคร่วมเสนอให้แยกคนละเบอร์ โดยเหตุผลสำคัญที่พรรคร่วมเสนอดังกล่าว เพื่อไม่ให้ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 90


นายนิกร กล่าวด้วยว่าสำหรับปฏิทินทำงานต่อการแก้ร่างพ.ร.ป. ทั้ง 2 ฉบับ คาดว่าภายในกลางเดือนมกราคม 2565 รัฐสภาจะพิจารณาในวาระรับหลักการ และตั้งกรรมาธิการฯ พิจารณา โดยรัฐธรรมนูญกำหนดให้พิจารณาให้เสร็จภายใน 180 วันนับจากวันที่รับหลักการ ดังนั้นเชื่อว่าการพิจารณาจะแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2565