นายกฯแจงปมดราม่า ปลูกผักชี-รถขนส่ง แค่ช่วยกันไม่แข่งกับใคร

22 พ.ย. 2564 | 08:52 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ย. 2564 | 16:49 น.

นายกฯโอดปมสั่งทหารปลูกผักชี-เตรียมรถขนส่ง แค่ช่วยกันยามเดือดร้อนไม่แข่งกับใคร ด้านหอการค้าเสนอ 5 เรื่อง 1 ประเด็นเร่งด่วนฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ

วันที่ 22 พ.ย.64 ที่หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง จับมือ รวมใจ พาไทยรอด ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 พร้อมรับสมุดปกขาวข้อเสนอจากการสัมมนา โดยมี พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาชิกหอการค้าร่วมด้วย

 

 สถานการณ์ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาสร้างผลกระทบกับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว ยังต้องแก้ไขผลกระทบในการดำเนินชีวิตและเศรษฐกิจ ต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องของงบประมาณ กฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ

นายกฯแจงปมดราม่า ปลูกผักชี-รถขนส่ง แค่ช่วยกันไม่แข่งกับใคร

 

“เรื่องของการลงทุน ถ้าผมเป็นเจ้าของธนาคารผมจะให้ทั้งหมด ในเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ แต่มันไม่ใช่ของผม เป็นของเอกชนที่มีผู้ถือหุ้น จะไปสั่งให้ลดนั่นลดนี่ทำไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจตรงนี้ ไม่ใช่ว่าทำไมนายกฯไม่สั่ง การจะจัดสรรอะไรต้องคิด ต้องปรึกษา ต้องมีคำตอบจากคณะทำงานว่าทำได้หรือไม่ได้ ถ้าสั่งได้ผมสั่งให้ทั้งหมดไปแล้ว แต่ถ้าทำจริงก็จะหาว่าเป็นเผด็จการเข้าไปอีก แค่ผมสั่งให้ทหารปลูกผักชีก็โดนแล้ว ทหารเขาปลูกไว้กินใครจะซื้อก็ซื้อ ใครไม่ซื้อก็ไม่เป็นไร จะได้ไม่ต้องไปซื้อของแพง ทหารปลูกไว้แจกด้วยซ้ำ เขาปลูกอยู่แล้วในค่ายทหาร ไม่ได้ว่าจะไปแข่งกับใคร ถ้าใครลำบากก็มาซื้อในที่ทหาร

 

เรื่องรถขนส่งก็เช่นกัน ถ้าเดือดร้อนขึ้นมาจริงๆ ขาดแคลนสินค้าขนส่งก็มาขอทหาร ก็ต้องช่วย และไม่ได้เปิดการขนส่งแข่งกับใคร อย่าไปฟังเขาบิดเบือน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ขณะที่ นายสนั่น กล่าวว่า การสัมมนาของหอการค้าครั้งนี้ได้ระดมความคิดเห็นใน 2 เรื่องหลัก คือการเสริมสร้างความเข้มแข็ง โดยขับเคลื่อนผ่าน 3 ห่วงโซ่คุณค่า (Value Chains) ได้แก่ ด้านการค้าการลงทุนและการค้าชายแดน ด้านเกษตรและอาหาร ด้านการท่องเที่ยวและการบริการ โดยมี 5 ประเด็นหลักและ 1 ประเด็นเร่งด่วน ดังนี้ 1.การพัฒนาสินค้าและบริการ เน้นการเพิ่มมูลค่า การพัฒนาผู้ประกอบการ และการออกแบบพัฒนา ดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในอนาคต 2.การเชื่อมตลาดโลก ทั้งสินค้า บริการ วัฒนธรรม ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยให้มีโอกาสเติบโตและก้าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ

 

นายสนั่นกล่าวว่า 3.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยหอการค้าฯจะสนับสนุนและเร่งพัฒนาผู้ประกอบการให้พร้อมรับมือกับโอกาสและการเปลี่ยนแปลง 4.เน้นการกระจายรายได้ และ 5.การพัฒนาเศรษฐกิจ และการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม ควบคู่กันไป ส่วนอีก 1 ประเด็นเร่งด่วน คือ การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้
/////////