ศาลรธน.ชี้ขาด 2 มาตราพรบ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตฯขัดรธน.หรือไม่ 22 ธ.ค.นี้

03 พ.ย. 2564 | 17:45 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ย. 2564 | 00:55 น.

ศาลรธน.นัดวินิจฉัย 2 มาตราพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบขัดรธน.หรือไม่ 22 ธ.ค.นี้ หลัง “วิชัย-รัชฎา กฤษดาธานนท์” ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทยใช้สิทธิ์ร้อง

 

วันนี้ (3 พ.ย.64) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางส่งคำโต้แย้งของ นายวิชัย กฤษดาธานนท์ และ นายรัชฎา กฤษดาธานนท์ ในคดีหมายเลขดำที่ 2 14/2561 และคดีหมายเลขดำที่ 289/2561 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 ว่าพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพ. ศ. 2559 มาตรา 21 วรรคสองขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 วรรคสาม มาตรา 26 วรรคหนึ่งและมาตรา 29 วรรค 4 และพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 22 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 29 วรรคสองหรือไม่

 

โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวนตามพ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่งโดยกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติในวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 เวลา 9:30 น.

 

สำหรับ นายวิชัย เป็นผู้บริหารกฤษดามหานคร และ นายรัชฎา เป็นบุตรชายของนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกคนละ 12 ปี ร่วมกับพวก โดยนายวิชัย นายรัชฎา และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษฎารวม 6 คนนั้น ก็ถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย